นางสาวยศพร สุวรรณวิเชียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท บียอนด์ บิวตี้ เทรด จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดสกินแคร์และมาสก์บำรุงผิวของประเทศไทยในปี 2567 ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากความสนใจในการดูแลผิวพรรณของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ผนวกกับเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ให้ประสิทธิภาพสูง และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวพรรณ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มาสก์ชีทที่ให้ความชุ่มชื้นและฟื้นฟูผิวได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นในวงกว้าง นอกจากนี้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันในปี 2566 ที่ผ่านมา บาโนบากิ สร้างความสำเร็จอันโดดเด่นในตลาดสกินแคร์ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโตขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการเปิดตัวสินค้าใหม่หลายรายการที่เน้นประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่เห็นผลจริงและเทคโนโลยีความงามจากเกาหลีอันเป็นสูตรเฉพาะที่คิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลบาโนบากิ ส่งผลให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคชาวไทยมากยิ่งขึ้น
สำหรับแผนการตลาดในปีนี้ บาโนบากิ จะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค โดยทำความเข้าใจถึงความต้องการและรับฟังความคิดเห็นของลูกค้าอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมพร้อมๆ กับเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยการใช้แคมเปญทางการตลาดแบบ Mass Marketing เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างและตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงเร่งอัพเกรดสินค้าสูตรเดิม พัฒนาไลน์สินค้าใหม่ๆ ให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ และสอดคล้องไปกับ K-Beauty Trend ที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนาสูตรให้เหมาะกับผิวและสภาพอากาศของเมืองไทยแบบเหนือชั้น เพื่อเร่งสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ตลอดจนสร้างการจดจำในฐานะ ‘มาสก์ = บาโนบากิ’ ทั้งทางออฟไลน์ ออนไลน์ และโซเชียลมีเดียแบบ 360 องศา อาทิ กิจกรรม Brand Meet, กิจกรรม Lucky Draw, การใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์และพรีเซนเตอร์ที่มีชื่อเสียง, งานอีเวนต์ และสื่อโฆษณา ณ จุดขาย เป็นต้น
นอกจากนี้ บาโนบากิยังใช้กลยุทธ์ “Idol Marketing” ด้วยการดึงไอดอลหนุ่มหน้าใส เตนล์ NCT ขวัญใจของเหล่า 10vely มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ประจำภูมิภาคเอเชียคนแรกอย่างเป็นทางการ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ ในช่วงอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไป ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการดูแลผิวพรรณ รักสวยรักงาม และติดตามเทรนด์บิวตี้อยู่เสมอ ซึ่งรวมไปถึงกลุ่ม New Gen และกลุ่มแฟนคลับศิลปิน K-POP ที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อสูง
ผู้บริหาร กล่าวทิ้งท้ายว่า โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างความนิยมและเป็นกระแส Viral ในโลกโซเชียลได้อีกทางหนึ่ง เนื่องจากมองว่าเตนล์เป็นไอดอลที่มีผลงานเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในกลุ่ม Gen Y, Gen Z ทั้งในประเทศไทย และประเทศโซนกลุ่มเอเชีย สำหรับในไลน์สินค้าหลักที่เตนล์เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่าง Marshmallow Cream, Damage Skin, Sleeping Mask, และ DX Mask และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งหวังว่าไลน์ผลิตภัณฑ์ของเตนล์จะช่วยดันยอดขายให้เติบโตขึ้นได้ราว 30-40% อีกทั้ง บริษัทคาดว่าจะสามารถดันยอดขายรวมทั้งปี 2567 นี้โตขึ้นราว 30%
ล่าสุด บาโนบากิเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่เป็น Non-Mask อย่าง Marshmallow Cream (มาร์ช แมลโลว์ ครีม) ครีมบำรุงผิวหน้าสำหรับกลางวันและกลางคืน ที่จะช่วยให้ผิวแลดูเนียนใส นุ่มเด้ง อิ่มน้ำ สวยฉ่ำสไตล์เกาหลี คิดค้นและพัฒนาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลบาโนบากิ นำโดย ดร.อีวังแจ (Dr. Lee Wang Jae), ดร. บันแจซัง (Dr. Barn Jae Sang), ดร. โอชังฮยอน (Dr. Oh Chang Hyun) และ ดร. บันแจยง (Dr. Ban Jae Yong) ซึ่งอุดมด้วยส่วนผสมคุณภาพสูงเทียบเท่าสกินแคร์ระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ อาทิ Turmeric ที่มีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างใส มีทั้งหมด 4 สูตร คือ Marshmallow Day Cream 2 สูตร ได้แก่ Acne & Cica และ Whitening & White Star กับ Marshmallow Night Cream 2 สูตร ได้แก่ Acne & Salicylic และ Whitening & Emblica ซึ่งจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายในช่วงเดือนกรกฎาคม 2567 นี้ เฉพาะที่ร้าน Watsons ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงเตรียมเซอร์ไพรส์กับไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่จะทำการเปิดตัวเร็วๆ นี้
