ผ่านไปแล้วสำหรับงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” (FAST Auto Show Thailand 2024) ปีที่ 12ด้วยความสำเร็จตามเป้าหมายในการกระตุ้นตลาดยานยนต์ไทยช่วงโลว์ซีซั่นกลางปีครบทุกหมวด ทั้ง “รถใหม่ป้ายแดง รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน” กวาดเม็ดเงินสะพัดกว่า 1,300 ล้านบาท ในช่วงจัดงานเพียง 5 วัน จากความหลากหลายให้เลือกได้ทั้งรถใหม่และรถใช้แล้วเกรดเอ รวมถึงการรับประกันซื้อคืน 100% สำหรับรถมือสองที่ซื้อในงานนี้อีกด้วย
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” กล่าวว่า สำหรับการจัดงานนี้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 12 ด้วยความคิดที่ว่า อยากให้มีสักงานที่ทำให้ช่วงกลางปีซึ่งถือว่าเป็นโลว์ซีซั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้มีความคึกคักขึ้นมาบ้าง แม้ว่าจะไม่เทียบเท่ากับช่วงต้นปี หรือปลายปีที่ถือว่าเป็นฤดูขายตามปกติ โดยสร้างจุดยืนที่กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำงาน คือ เป็นงานแสดงรถยนต์งานแรกในประเทศไทยที่รวมเอารถยนต์ป้ายแดงและรถยนต์ใช้แล้วหรือรถมือสองไว้ในงานเดียวกัน เพื่อให้ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์สักคันมาใช้งานได้ประโยชน์สูงสุด ทำให้มีตัวเลือกที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งาน และงบประมาณ สามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าในการลงทุนได้เลยระหว่างรถใหม่ป้ายแดงกับรถยนต์ใช้แล้ว สำหรับการจัดงานในปีนี้ที่หลายคนมองว่าตลาดรถหดตัวจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้น และมีความผันผวนจากสงครามราคาของรถไฟฟ้า แต่งาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ยังสามารถบรรลุเป้าหมายสร้างเม็ดเงินสะพัดภายในช่วงเวลาจัดงานแค่ 5 วัน ระหว่าง วันที่ 3 - 7 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สามารถสร้างเงินสะพัดกว่ากว่า 1,300 ล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่แล้ว สำหรับบทสรุปความสำเร็จงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ประกอบด้วย
แบรนด์รถใหม่ป้ายแดงเข้าร่วมมากถึง 15 แบรนด์ ครอบคลุมทุกทางเลือกด้านพลังงาน โดยมีแบรนด์ที่เข้าร่วมงานนี้เป็นครั้งแรก 7 แบรนด์ จากจุดแข็งในความเชี่ยวชาญของสื่อสากลและกรังด์ปรีซ์ ผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และมอเตอร์โชว์ พันธมิตรที่จัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์” ร่วมกัน โดยแต่ละแบรนด์พอใจในยอดขายทำได้ตามเป้า กลุ่มรถไฟฟ้าได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษตามคาด ขณะที่รถยนต์ใช้แล้วเกรดเอก็ยังได้รับความสนใจมากเช่นเคย ทำให้มีเม็ดเงินสะพัดในงานรวมกว่า 1,300 ล้านบาท
ยอดจองของรถยนต์ใช้แล้วในงานมีมูลค่าใกล้เคียงกับปีที่แล้ว สะท้อนถึงดีมานด์ของกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะในกลุ่มพรีเมี่ยมคาร์มือสอง ประกอบกับผู้บริโภคมีความมั่นใจในการซื้อมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการคัดสรรเฉพาะรถคุณภาพดีมาขายในงาน พร้อมราคาที่ปรับลงจากเดิมจนเกินความคุ้มค่า และที่สำคัญ “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” เป็นงานแรกที่รับประกันซื้อคืน 100% หากพบว่ารถที่ซื้อไปผิดเงื่อนไข 5 ข้อตามที่ระบุ ได้แก่ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก และไม่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย ผนวกกับปีนี้ได้ยกระดับการรับประกันด้วยการออกใบรับประกัน ระบุคุณภาพเกรดและรายละเอียดสำคัญของรถยนต์ใช้แล้วแต่ละคันอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการด้านยานยนต์ทุกค่ายที่มอบความไว้วางใจมาจัดในงานนี้มีมากมายหลายแบรนด์ชั้นนำ พร้อมทั้งจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษเพื่อเป็นการสมนาคุณให้กับลูกค้าจนนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน อีกทั้ง ยังมีหลายแบรนด์นำรถของตนมาอัปเดทเทรนด์ EV เทสไดร์ฟแบบชิค ๆ กว่า10 รุ่นรถไฟฟ้าที่มาเข้าร่วมมากขึ้น นำโดย Honda e:N1 รถไฟฟ้าที่วันนี้ยังไม่มีจำหน่าย แต่มีให้เช่าใช้เท่านั้น Volvo EX30, ORA07, Deepal S07, Hyundai IONIQ5, NETA VII, MG4, Wuling Air EV, NEXTEM ORCA และ NEXTEM Golf Cart เป็นต้น
** “อีซูซุ” โชว์ความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่าใครกับ NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” และ “ISUZU D-MAX” หลากรุ่น
พาส่อง แบรนด์ อีซูซุส่งทัพหน้าเพื่อความพีคขั้นสุด NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” ครบ 4 รุ่น ตั้งแต่รุ่น RS, Ultimate, Elegant และ Active อัปเกรดรถอีซูซุสู่เป้าหมายรถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในคลาส พร้อมทั้ง “ISUZU D-MAX” ในรุ่น V-CROSS 4x4, X-SERIES และ CAB 4 โดยมีทั้งรถตกแต่งพิเศษ และรถมาตรฐานโรงงาน รวม 8 คัน ชูจุดเด่นด้านอรรถประโยชน์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานที่หลากหลาย โดดเด่นด้านสมรรถนะ ความทนทาน และประหยัดน้ำมันขั้นสุด คงคอนเซ็ปต์รถที่คุ้มค่าเงินสูงสุด มาโชว์ในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024
โดย ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ NEW! MU-X “THE NEXT PEAK” ที่ได้ออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ก็ได้รับกระแสการตอบรับอย่างดียิ่งทั้งจากผู้ใช้รถชาวไทยและสื่อมวลชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากดีไซน์สุดพรีเมี่ยมพร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆ เช่น กล้อง 360 องศาพร้อมมุมมองใต้ท้องรถ พวงมาลัยไฟฟ้า EPS และระบบความปลอดภัยที่เหนือไปอีกขั้น ด้วย ADAS Generation ล่าสุด เรามั่นใจว่า MU-X “THE NEXT PEAK” จะเป็นรถอเนกประสงค์ที่ดีที่สุดในคลาสตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน จึงได้มาจัดแสดงโชว์ภายในงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ครบทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ RS, Ultimate, Elegant และในรุ่น Active ที่มีการตกแต่งพิเศษร่วมด้วย
นอกจากนี้ยังมี ISUZU V-CROSS 4x4 ที่มาพร้อมชุดแต่งสุดเท่จาก IRONMAN 4x4 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ไลฟ์สไตล์ปิกอัพสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ISUZU X-SERIES “แรง...ทะลุเวิร์ส” และ ISUZU D-MAX CAB4 ที่จะตอบโจทย์ครบด้านความอเนกประสงค์ที่เหนือกว่าทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถทดลองขับเพื่อเปิดประสบการณ์การขับขี่ด้วยตัวเองได้ภายในงานอีกด้วย
** เปิดตัว NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัคมาตรฐานยุโรป จับกลุ่มผู้ประกอบการมองโอกาสในการทำธุรกิจ
มาเอาใจสาย ผู้ประกอบการที่ต้องการได้รถต่อยอดทำธุรกิจ ล่าสุด NEXTEM ประเทศไทย เปิดตัว NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัครุ่น ORCA มาตรฐานยุโรป ตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายโอกาสในการทำธุรกิจด้วย NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท คุ้มค่าการลงทุน ตั้งเป้าขยายตลาดสู่ CLMV พร้อมรุกตลาดสร้างดีลเลอร์ ทั่วประเทศ ในงาน FAST AUTO Show 2024
นางสาว พวงชมพู ปาละกูล Co Founder & CEO บริษัท ทานะ ดีดี จำกัด (NEXTEM ประเทศไทย) กล่าวว่า “NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ORCA เป็นรถนำเข้ามาตรฐานยุโรป โดยมีบริษัทแม่ NEXTEM ประเทศสิงคโปร์ให้การสนับสนุนการผลิตจากประเทศจีน และได้รับลิขสิทธิ์ในการเป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) แต่เพียงผู้เดียว ในประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา หวังครองส่วนแบ่งการตลาดผู้บริโภคผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่เน้นความต้องการใช้งานรถเพื่อการประกอบอาชีพ และการขับขี่เอนกประสงค์ในกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการความคล่องตัว มีความเป็นอิสระ โดดเด่นสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของ NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ORCA ที่มีรูปลักษณ์สวยงาม ทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถไฟฟ้า สำหรับใช้งาน เราภาคภูมิใจหากสามารถช่วยส่งเสริม กระตุ้นให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพ โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบการในสาขาอาชีพต่างๆ ที่ต้องการลงทุนเพื่อการสร้างอาชีพ กลุ่มลูกค้าองค์กร ธุรกิจ Logistic ธุรกิจโรงแรม 5 ดาว ธุรกิจให้เช่ารถ ธุรกิจอีเว้นท์ เพื่อการสื่อสารจัดแสดง หรือธุรกิจรถโดยสารระยะสั้น และอื่นๆ
สำหรับ NEXTEM ORCA Mini EVTruck รถไฟฟ้ามินิทรัค ORCA รูปโฉมทันสมัยกระทัดรัด แต่มีสมรรถนะใช้งานหนักบรรทุกได้ถึง 1 ตัน สามารถขับขี่ได้ทั่วไปในระยะทาง 200 กิโลเมตรต่อการชารจ์แบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง รับประกันแบตเตอรี่ 5 ปี เสริมระบบความปลอดภัยด้วย Airbag ระบบเบรก ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ESC Electronic Stability Control เลี้ยวโค้งด้วยความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ได้รับการยอมรับในตลาดมากกว่า 35 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรถรุ่นแรกที่จะนำเข้า สามารถนำมาต่อประกอบได้หลายรุ่น อาทิ Chassis, Pick-up Bed, Standard Box, High-Box และ Hydraulic Tipper สามารถจ่ายไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านได้ (Vehicle-to-load V2L) ในราคาเริ่มต้นเพียง 599,000 บาท อีกทั้งให้ความเชื่อมั่นในเรื่องการปกป้องและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและยั่งยืน เป็นความมุ่งมั่นของบริษัทในการส่งเสริมพลังงานสะอาดและการลดมลพิษ และส่งเสริมแนวคิดการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
** ชมสีสัน “รถยนต์มือสอง” จาก 8 ผู้ประกอบการ นำรถสภาพนางฟ้า มาให้ “เลือกคันที่ชอบ ถอยคันที่ใช่”
นายอัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ รองประธานฝ่ายรถใช้แล้ว “ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” กล่าวว่า ในทุก ๆ ปี ของการจัดงาน “ฟาสต์ ออโต โชว์” กลุ่มรถยนต์ใช้แล้วถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสีสันที่ช่วยดึงดูดคนมาร่วมงาน เพราะตอบโจทย์ผู้บริโภคที่อยากได้รถสักคันไว้ใช้ในราคาที่จับต้องได้ แถมยังมีโอกาสเลือกรุ่นตัวท็อปที่มีฟังก์ชันและคุณภาพไม่หนีจากรถใหม่มากนักในราคาที่อาจถูกมากกว่าครึ่งของราคารถใหม่ป้ายแดง ซึ่งปีนี้ผู้ประกอบการรถใช้แล้วผ่านการคัดกรองจากผู้จัดงานมาเป็นอย่างดี มีความเชี่ยวชาญในการคัดสรรรถใช้แล้วคุณภาพดี รุ่นใหม่ ไมล์น้อยสภาพนางฟ้า มานำเสนอภายในงาน ตั้งแต่อีโคคาร์ไปจนถึงซูเปอร์คาร์ รวมไปถึงรถวินเทจ โดยรถเด่นที่แต่ละผู้ประกอบการภูมิใจนำเสนอ ได้แก่
· ดา ศรีนครินทร์ คัดสรรรถขายดี 3 กลุ่ม อันดับ 1 คือ รถพีพีวี เช่น อีซูซุ มิว-เอ็กซ์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ อันดับ 2 รถเอสยูวี เช่น โตโยต้า ครอส มาสด้า CX-5 ฮอนด้า HRV อันดับ3 ปิกอัพ 4 ประตู เช่น อีซูซุ ดีแมคซ์ โตโยต้า รีโว่ มาให้เลือกแบบจุใจ
· โย รัชดา นำรถพรีเมี่ยมคัดสเป็กเกรดเอมาจำหน่าย รถยุโรปสภาพสวย ทั้ง เบนซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยูและปอร์เช่ สภาพเหมือนใหม่ในราคาประหยัดสุดคุ้มแถมบางคันยังมาพร้อมชุดแต่งสวย ๆ รวมทั้งรถขายดีแบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง โตโยต้า อัลพาร์ดซึ่งมีในสต็อคกว่า 90 คัน สมกับเป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศไทย
· DDS คาร์เซ็นเตอร์ นำรถทุกเซ็กเมนท์ ทั้งอีโคคาร์ ซิตี้คาร์ รถปิกอัพ รถครอบครัว ไปจนถึงพรีเมี่ยมคาร์แบรนด์ยุโรปเกรดเอหลากหลายแบรนด์ นอกจากนี้ ในส่วนผู้ประกอบการเองยังเพิ่มความมั่นใจให้อีกขั้นด้วยการรับประกันเครื่องยนต์ และระบบเกียร์หลังการขายควบคู่กันอีกด้วย
· รถเศรษฐี Sethi Premium Used Car เน้นจำหน่ายพรีเมี่ยมคาร์รุ่นที่มีเอกลักษณ์ (Unique) แปลกแต่มีสไตล์ ทั้งเบนซ์ บีเอ็ม เรนจ์ โรเวอร์จากัวร์ ออดี้ นอกจากนี้ ยังนำรถวินเทจรุ่นหายากมาจำหน่ายในงาน อาทิ โรลส์รอยซ์ ซิลเวอร์ ชาโดว์ สำหรับสายสะสมที่ชื่นชอบและต้องการลงทุนเพราะตอนนี้ราคายังไม่สูง
· CarDeeSureOK เจ้าเดียวในงานที่นำรถเช่าหมดสัญญาของบัดเจ็ท (Budget) ซึ่งเคยเป็นรถสำหรับผู้บริหารหน่วยงานต่าง ๆ ที่ผ่านการคัดสภาพมาจำหน่าย รถทุกคันจึงมีสภาพดี มีประวัติการเข้าเช็คศูนย์บริการตามระยะ เน้นที่แบรนด์ตลาดอย่างโตโยต้า และฮอนด้าเป็นหลัก
และสำหรับผู้ประกอบการรถใช้แล้วที่ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากบริษัทแม่ก็นำรถเด็ดมานำเสนอไม่แพ้กัน ทั้ง GWM Certified Pre-Owned, Volvo Selekt Approved Used Cars และ Benz Keng Hong Thong ที่นำรถยนต์ที่ผ่านการคัดสรร ตรวจเช็คสภาพและประวัติจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ มาให้เลือกเป็นเจ้าของในราคาสบายกระเป๋า พร้อมมีการรับประกันสามารถเข้าศูนย์บริการได้ทุกแห่ง
“ปีนี้ได้มีการยกระดับการรับประกันรูปแบบใหม่สำหรับรถยนต์ใช้แล้วที่จำหน่ายในงาน “ฟาสต์ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024” ด้วยการออกใบรับประกัน ระบุคุณภาพเกรดของรถยนต์ใช้แล้วทุกคันภายในงาน ตรวจสอบโดยทีมงานที่มากประสบการณ์ของ อาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ และรับประกันซื้อคืน 100% หากรถใช้แล้วที่จำหน่ายในงานผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน 5 ข้อคือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก และไม่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย”
อย่างไรก็ตาม บอกได้เลยว่างาน“ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์2024” ปีที่ 12 ที่ได้ 2 พันธมิตรหลักที่ร่วมจัดงานครั้งนี้ ทั้งสื่อสากล ผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป และกรังด์ปรีซ์ ผู้จัดงานมอเตอร์โชว์ นั้นมาร่วมมือพร้อมที่จะยืนหยัดเป็นอีกหนึ่งงานที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนและพลิกฟื้นอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยที่ซบเซาให้คึกคักตั้งแต่กลางปีนี้ไปจนถึงช่วงปลายปีนี้และต้นปีหน้าอย่างแน่นอน