กิฟฟารีน เดินหน้าต่อสัญญา “ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน” เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ควบ 3 ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง Fitt Meal by Giffarine, Giffarine Vegan Protein และ Giffarine Cosanol Multi Plant Omega 3 Oil หวังช่วยเป็นแม่เหล็ก ผลักดันยอดรายได้ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่างปี 2567 เติบโต 10-20% และช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด สิ้นปี 2567 เติบโต 3-5%
นายพงศ์พสุ อุณาพรหม รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่เพื่อการเติบโตองค์กร บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดของกิฟฟารีนสำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดูแลรูปร่างปี 2567 ว่า จะรุกหนักในช่องทางออนไลน์ ทั้ง e-marketplace, Social Media ร่วมกับการใช้แคมเปญส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดทั้งปี รวมไปถึงทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในช่องทาง OOH (Out of Home) เพื่อสร้างการรับรู้ผ่านพรีเซ็นเตอร์ต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้นักขายหรือนักธุรกิจกิฟฟารีนทำงานได้ง่ายขึ้น มียอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งลีเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน ทำหน้าที่เป็นนพรีเซ็นเตอร์ใน 3 ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง คือ Fitt Meal by Giffarine, Giffarine Vegan Protein และ Giffarine Cosanol Multi Plant Omega 3 Oil ได้ดี ช่วยปลุกกำลังซื้อ สร้างยอดขายให้กับนักขายหรือนักธุรกิจกิฟฟารีนได้เป็นจำนวนมากในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ปี 2567 นี้ บริษัทฯ จึงใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์มาร์เก็ตติ้งต่อเนื่อง ด้วยการต่อสัญญากับ ลีเดีย - ศรัณย์รัชต์ ดีน นักร้องและนักแสดงชื่อดังให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อเป็นปีที่ 2 ใน 3 ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่างดังกล่าว ซึ่งถือเป็นสินค้าเรือธง และเป็น Best Seller ของกิฟฟารีนในกลุ่มดูแลรูปร่าง
“ที่ 3 ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง ทั้ง Fitt Meal by Giffarine, Giffarine Vegan Protein และ Giffarine Cosanol Multi Plant Omega 3 Oil ประสบความสำเร็จในการทำตลาด จนเป็นกลุ่มสินค้าเรือธง สร้างยอดขายได้ดีของกิฟฟารีน เพราะปัจจุบันกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง Fitt meal ตั้งแต่เปิดตัวเมื่อกลางปี 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายเติบโตตามเป้า ขณะที่ Vegan โปรตีน เปิดตัวมาแล้ว 2 ปี ก็มียอดขายเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหากผู้บริโภครับประทานอย่างต่อเนื่องตามโปรแกรม รวมถึงรับประทานควบคู่กันทั้งผลิตภัณฑ์ Fitt meal, Vegan โปรตีน และทานผลิตภัณฑ์ Cosanol Multi Plant Omega 3 Oil ร่วมด้วย จะทำให้การดูแลรูปร่างได้ผล และมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
ทั้งนี้ การต่อสัญญากับ “ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน” ให้เป็นพรีเซ็นเตอร์ 3 ผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่าง Fitt Meal by Giffarine, Giffarine Vegan Protein และ Giffarine Cosanol Multi Plant Omega 3 Oil ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพราะตรงกับคอนเซ็ปท์ของผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่างของบริษัทฯ และเหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้า 3 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของลีเดีย เป็นคนชอบออกกำลังกาย และดูแลรูปร่างอยู่เสมอ จึงน่าจะช่วยเป็นแม่เหล็กปลุกกำลังซื้อได้ดีเยี่ยม
นายพงศ์พสุ กล่าวว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ 2 ผลิตภัณฑ์ Fitt Meal by Giffarine, Giffarine Vegan สามารถช่วยผลักดันยอดขายใน 2 ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเติบโตเพิ่มขึ้น 15-20% คาดหวังว่าสิ้นปี 2567 นี้ ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน จะช่วยผลักดันยอดรายได้รวมของผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ตัว หรือกลุ่มดูแลรูปร่างเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% จากปี 2566 ที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลรูปร่างทำยอดรายได้มากกว่า 400 ล้านบาท และช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด สิ้นปี 2567 ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ โดยส่วนตัวอยากให้ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน เป็นเหมือน Influencer ที่ชวนคนมาดูแลรูปร่าง และรับประทานอาหารอย่างถูกวิธีเพื่อให้สุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง มีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมา ลีเดีย ถือว่าตอบโจทย์การสร้างการรับรู้ในเรื่องของการดูแลรูปร่างของผลิตภัณฑ์ Fitt Meal ได้เป็นอย่างดี และเป็นตัวเปิดฉากในการแนะนำผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหาร ( replace meal ) น้องใหม่ออกสู่ตลาด หรือเป็น Phase แรกของการสร้าง brand สินค้า Fitt Meal by Giffarine ให้ผู้บริโภคได้รู้จัก เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การดูแลรูปร่าง และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ผู้สนใจลดน้ำหนัก สามารถลดน้ำหนักอย่างมีความสุข
“ปี 2567 นี้ บริษัทฯ ทุ่มงบทำตลาดตลอดทั้งปีในผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่างประมาณ 20-30 ล้านบาท พร้อมใช้กลยุทธ์บุกช่องทางออนไลน์ ร่วมกับแคมเปญส่งเสริมการขายที่คุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค รวมถึงสร้างคอนเทนท์ผ่าน Influencer ในช่องทาง Social Media ทั้ง FB, IG, TikTok และสร้างกองทัพนักขายออนไลน์ให้แข็งแกร่งขึ้นเป็นหลัก เพื่อผลักดันยอดรายได้ผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่างเติบโต 10-20% โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์กลุ่มดูแลรูปร่าง คือ ทุกเพศ ทุกวัย อายุระหว่าง 25-50 ปีขึ้นไป ที่ต้องการดูแลรูปร่าง และใส่ใจเรื่องการมีน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ส่วนกลุ่มเป้าหมายรอง คือ กลุ่มคนที่สนใจเสริมโปรตีนให้กับร่างกาย กลุ่มเป้าหมายที่ 3 คือ กลุ่มผู้สูงอายุที่รับประทานอาหารไม่ค่อยได้ เนื่องจากเบื่ออาหาร หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ"