ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group) โดย FTSE Russell ผู้ประเมิน ESG ระดับโลก มุ่งพัฒนาศักยภาพตลาดทุนไทย เดินหน้ายกระดับการประเมินความยั่งยืน SET ESG Ratings สู่มาตรฐานสากล เน้นการประเมินจากข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) เปิดเผยสู่สาธารณะ (public disclosures) ซึ่งเป็น Methodology ที่ใช้ประเมินกว่า 8,000 หลักทรัพย์ทั่วโลก สร้างความเชื่อมั่นพร้อมดึงดูดความสนใจผู้ลงทุน และสามารถเปรียบเทียบผลประเมินกับบริษัททั้งในและต่างประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกัน โดยจะเตรียมความพร้อม บจ. และเริ่มโครงการประเมินนำร่องในปี 2567-2568 ก่อนการประเมินและประกาศผลคะแนน ESG สู่สาธารณะตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ โดยได้ยกระดับความเข้มข้นในการประเมิน SET ESG Ratings สู่มาตรฐานสากล เพิ่มความน่าสนใจให้แก่ บจ. ไทยในสายตาผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ศึกษาแนวทางการประเมิน ESG สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทยมาตั้งแต่ปี 2565 และได้ข้อสรุปร่วมกับ FTSE Russell (บริษัทย่อยในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน หรือ LSEG) ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบันและ Asset managers ชั้นนำทั่วโลกโดยมีมูลค่าทรัพย์สินกองทุน (AUM) สูงถึง 15.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐที่อ้างอิงดัชนีของ FTSE
อยู่ในปัจจุบัน
การประเมิน SET ESG Ratings ในปัจจุบันเป็นภาคสมัครใจ โดย บจ. ต้องสมัครเข้าร่วมการประเมิน และตลาดหลักทรัพย์ฯ มีคณะทำงานเพื่อการลงทุนอย่างยั่งยืนซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมพิจารณาหลักเกณฑ์และกระบวนการประเมิน โดยบริษัทต้องผ่านเกณฑ์ทั้งด้านคะแนนจากการตอบแบบประเมินและด้านคุณสมบัติ ในขณะที่กระบวนการประเมินแบบใหม่โดย FTSE Russell จะเน้นการการประเมินจากข้อมูลที่ บจ. เปิดเผยสู่สาธารณะ (public disclosure) ซึ่งเป็น Methodology เดียวกันกับที่ประเมินบริษัทกว่า 8,000 แห่งใน 47 ประเทศทั่วโลก เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ยกระดับความโปร่งใสของการประเมิน อีกทั้งยังลดภาระการตอบแบบประเมินความยั่งยืนของ บจ. และช่วยให้ บจ. มีกรอบการดำเนินงาน ESG ตามมาตรฐานสากล ขณะเดียวกัน ผู้ลงทุนยังสามารถเปรียบเทียบผลประเมินกับบริษัททั้งในและต่างประเทศได้ด้วยมาตรฐานเดียวกัน นอกจากนี้ FTSE Russell ซึ่งอยู่ภายใต้ London Stock Exchange Group ยังมีการดำเนินงานที่สอดคล้องกับ Code of Conduct สากล โดย FTSE ESG Data Model ถูกกำกับดูแลโดยคณะกรรมการอิสระ ซึ่งประกอบด้วยภาคธุรกิจ ผู้ลงทุน NGOs และนักวิชาการ แนวทางและวิธีการประเมินจึงสะท้อนมุมมองของผู้มีส่วนได้เสียที่หลากหลาย
“ความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ FTSE Russell เป็นก้าวสำคัญของตลาดทุนไทยที่จะช่วยส่งเสริมให้ บจ. ไทยพัฒนาการดำเนินงานด้านความยั่งยืนสู่ระดับสากล และสนับสนุนให้ผู้ลงทุนพิจารณา ESG ประกอบการตัดสินใจลงทุนตามเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ได้วางแผนและกำหนด Roadmap ของการยกระดับการประเมินร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ สมาคมบริษัทจัดการลงทุน และสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เพื่อให้การยกระดับการประเมิน ESG ไปสู่มาตรฐานสากลนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยกำหนดให้มีโครงการประเมินนำร่องในปี 2567-2568 เพื่อให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อม ก่อนที่จะดำเนินการประเมินและประกาศผลสู่สาธารณะตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป” นายภากรกล่าว
Helena Fung ผู้บริหารสูงสุดด้านการเงินและการลงทุนอย่างยั่งยืนประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSEG) กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และมีส่วนร่วมเสริมสร้างระบบนิเวศของตลาดทุนไทยให้แต่ละภาคส่วนสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน ความร่วมมือในครั้งนี้ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ LSEG ในการยกระดับการดำเนินงานของตลาดทุนทั่วโลกและสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียในวงกว้าง ที่สำคัญ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนไทยสามารถพัฒนาการดำเนินงานด้าน ESG ได้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจให้บริษัทจดทะเบียนไทยในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก”