"บี.กริม เพาเวอร์" เผยกำไรสุทธิดำเนินงานครึ่งปีแรกเติบโตดี ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทต่อหุ้น ผนึกพันธมิตรขยายลงทุน เพิ่มพอร์ตพลังงานหมุนเวียนสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593

วันอังคารที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2567



ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน  บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด  (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผย  กำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ในช่วง 6 เดือนแรก เติบโต 2.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ 1,091 ล้านบาท และ EBITDA เติบโต 8.0% ที่ 7,548 ล้านบาท จากปริมาณขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 10.4% ที่ 7,576 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ กฟผ. เพิ่มขึ้น 14.9% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ ในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 4 ปี 2566 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 420 เมกะวัตต์ และปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้น 8.2% รวมทั้งปริมาณขายไอน้ำที่เติบโตขึ้น 16.4% จากการขยายกำลังการผลิตของลูกค้าเดิม และความต้องการที่เพิ่มขึ้น
 
โดยผลการดำเนินการในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 บี.กริม เพาเวอร์ มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 579 ล้านบาท เติบโต 20.9% จากไตรมาสก่อนหน้า จากปริมาณการขายไฟฟ้าให้กับแก่ กฟผ. ที่เพิ่มขึ้น ราคาก๊าซธรรมชาติที่ลดลง รวมทั้งส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่เติบโต จากผลประกอบการที่ดีขึ้นของ 3 โรงไฟฟ้า SPP ภายใต้ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด (UVBGP) อย่างไรก็ดีหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลการดำเนินงานได้ปรับตัวลดลงจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ เนื่องจากการหมดอายุของสิทธิประโยชน์ทางภาษีของโครงการโรงไฟฟ้า 3 โครงการ ทั้งนี้กำไรสุทธิ – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ (เมื่อรวมผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน) อยู่ที่ 229 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567 บี.กริม เพาเวอร์ ได้เชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ในประเทศไทย จำนวน 5.2 เมกะวัตต์ จากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นการเชื่อมเข้าระบบในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 รวมทั้งสิ้น 11.2 เมกะวัตต์
 
สำหรับการขยายการลงทุนในไตรมาส 2 เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตในระยะยาว บริษัท BGP Holding (US) (บริษัทย่อยทางอ้อมของ บี.กริม เพาเวอร์) ได้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Malacha ในตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังการผลิตติดตั้ง 30 เมกะวัตต์  และมีแผนขยายการเข้าซื้อและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในตลาดพลังงานในรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐอื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ บริษัท RES Company Sicilia S.r.l. (บริษัทย่อย) เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท LT09 S.r.l. เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน “Ortanova 2” กำลังการผลิต 73.26 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสาธารณรัฐอิตาลี และล่าสุดในเดือนกรกฎาคม B.Grimm Power Pty. (บริษัทย่อย) ได้เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดใน Nemaroo Bimbi Wind Farm Pty. เพื่อพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนและ Energy Hub ทางตอนเหนือของรัฐ Queensland ประเทศออสเตรเลีย 
 
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนามากกว่า 1 กิกะวัตต์ โดยในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีกำหนดการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง 2. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GIFU ในประเทศญี่ปุ่น และ 3. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลี
 
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า เป้าหมายระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ตั้งเป้าสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 โดยมีสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50%  
 
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ มีมติประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่ 0.18 บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 สิงหาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 6 กันยายน 2567


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ