เจ้าท่า เร่งเสนอโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) เกาะสมุยเข้า ครม. ก่อนสิ้นปีนี้

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เจ้าท่า เร่งเสนอโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) เกาะสมุยเข้า ครม. ก่อนสิ้นปีนี้


กรมเจ้าท่า ร่วมคณะรองนายกฯ ติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) เกาะสมุย กำชับ!! เจ้าท่า เร่งเสนอเข้า ครม. ก่อนสิ้นปี 2567

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2567 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่เกาะสมุยเพื่อติดตามโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) ณ บริเวณแหลมหินคม อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะผู้บริหารจากกระทรวงคมนาคม โดยมีนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า พร้อมด้วยผู้บริหารกรมเจ้าท่าและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับ

นายสุริยะเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามโครงการสำคัญของกระทรวงคมนาคมในครั้งนี้ พบว่าเกาะสมุย เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดรายได้และส่งผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ กระทรวงคมนาคมจึงวางแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมในหลายมิติ ทั้งทางอากาศ ทางถนน และทางน้ำ เพื่อรองรับการเติบโตของเกาะสมุยและพื้นที่ใกล้เคียง

นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งทางน้ำในจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงโครงการก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) นั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง จากตัวเลขสถิติของเรือสำราญที่เข้ามาในประเทศ พบว่านักท่องเที่ยวมีความต้องการเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้นำท้องถิ่น ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่เกาะสมุยต่างยินดีให้การสนับสนุนโครงการนี้ เพราะเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนบนเกาะสมุยและกระจายรายได้สู่ภูมิภาคมากขึ้น

อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวต่อว่า โครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เกาะสมุยนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติด้านความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยเน้นการท่องเที่ยวทางน้ำ ทั้งนี้ การก่อสร้างท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เกาะสมุยจะช่วยแก้ไขข้อจำกัดที่เคยมีมาในอดีต ซึ่งเรือสำราญต้องจอดนอกฝั่งและขนถ่ายผู้โดยสารขึ้นฝั่งด้วยเรือเล็ก หากโครงการนี้สำเร็จ จะช่วยให้เรือสำราญสามารถเทียบท่าได้โดยตรง ทำให้การขนถ่ายผู้โดยสารสะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับโครงการนี้ เป็นการดำเนินการในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยเรือสำราญขนาดใหญ่ และยกระดับการท่องเที่ยวเรือสำราญในประเทศไทยให้สูงขึ้น โครงการนี้จะใช้พื้นที่ในการพัฒนาประมาณ 47 ไร่ แยกเป็นพื้นที่บนฝั่ง 15 ไร่ และพื้นที่นอกชายฝั่ง 32 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 12,172 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการลงทุน 6,414.41 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา 5,757.19 ล้านบาท 

โดยโครงการนี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2568 จนถึงปี 2604 โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2572 และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปี  2575  ซึ่งมีระยะเวลาการให้บริการยาวนานถึง 30 ปี คาดการณ์ว่าหลังจากเปิดให้บริการจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่ 200,000 ถึง 400,000 คนต่อปี และรองรับเรือสำราญได้ 240 เที่ยวต่อปี

จากการศึกษาโครงการฯ คาดว่าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ที่เกาะสมุยจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจตลอดระยะเวลา 30 ปี ประมาณ 46,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์สูงกว่า 15% นับเป็นการลงทุนที่มีความคุ้มค่าและส่งผลต่อการกระจายรายได้สู่ภูมิภาคได้อย่างมีนัยสำคัญ โครงการนี้ยังคาดว่าจะสร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นเข้มแข็งขึ้น

ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและเห็นว่า รูปแบบการลงทุนแบบ PPP Net Cost จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐ โดยให้เอกชนเป็นผู้ร่วมลงทุนในการก่อสร้างและการดำเนินงานทั้งหมด โดยรัฐจะชำระค่าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคืนให้ในระยะเวลา 10 ปี กรมเจ้าท่าได้ส่งรายงานผลการศึกษานี้ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาแล้ว คาดว่าจะสามารถนำโครงการเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ก่อนสิ้นปี 2567 และจะเริ่มก่อสร้างในปี 2572 เมื่อโครงการนี้เสร็จสิ้นจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการท่องเที่ยวของประเทศไทยในระดับโลก ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ