BLISS ปรับกลยุทธ์แผนการดำเนินงานครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างธุรกิจ ทีมผู้บริหาร รุกขยายฐานสู่ธุรกิจด้านไอทีเต็มรูปแบบ โชว์งานในมือล่าสุดที่ 1.7 พันล้าน การันตีผลงาน ปีนี้พลิกมีกำไร ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี คาดหวังติดบริษัท 1 ใน 100 ของบริษัทในตลาดฯ ที่ทำรายได้สูงสุด เผยอยู่ระหว่างการรอการพิจารณาจาก ก.ล.ต.อนุมัติส่งหุ้นกลับลงกระดาน คาดได้ฤกษ์ลงเทรดทันปีนี้

นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ ประธาน กรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท บลิส-เทล จำกัด (มหาชน) หรือ BLISS เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ จากเดิมที่ BLISS เป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซิมการ์ด และบัตรเติมเงิน และอุปกรณ์เสริมหลายตราผลิตภัณฑ์ โดยผ่าน Bliss-tel Shop และขายตรงในห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้าต่างๆ มาเป็นธุรกิจพัฒนา ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) โดยเล็งเห็นว่า เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เป็นธุรกิจที่มีอนาคต มีความเสี่ยงต่ำ และให้ผลตอบแทนที่ดี สำหรับธุรกิจใหม่มีทั้งหมด 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มเทเลคอม โซลูชั่น กลุ่ม ไอที โซลูชั่น และกลุ่มซอฟต์แวร์และดิจิตอล มีเดีย ซึ่งธุรกิจทั้งสามกลุ่มสามารถ สร้างรายได้ให้กับบริษัทได้แล้วทุกกลุ่ม

นอกจากนี้ ยังได้ปรับโครงสร้างผู้บริหารใหม่ โดยคณะกรรมการบริษัทอนุมัติแต่งตั้งนายณัฐพงศ์ พันธเกียรติไพศาล เป็นประธานกรรมการบริษัทคนใหม่ และแต่งตั้งนายสุรพล โอภาสเสถียร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร เข้าดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ขณะที่ตนเองได้เข้ารับตำแหน่ง รองประธานกรรมการ ประธานกรรมการ บริหารและกรรมการผู้จัดการ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามโครงสร้างธุรกิจใหม่ของ BLISS

ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีโครงการต่างๆ ที่อยู่ในมือมูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ภายในปีนี้ ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการของ BLISS ในปีนี้พลิกกลับมามีกำไรได้ ส่วนผลการดำเนินงานปี 2557 คาดว่าจะมีรายได้ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากงานในมือที่รอรับรู้รายได้ในปีหน้าประมาณ 700 ล้านบาท รวมถึงการเดินหน้าเข้าประมูลงานต่างๆ ดังนั้น ภายใน 1-2 ปีจากนี้ รายได้น่าจะเติบโตราว 1 เท่าตัว เริ่มจากปีหน้าเป็นต้นไป โดยในปีหน้า จะเข้าประมูลงานแท็บเล็ตของภาครัฐ มูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่จะรับรู้รายได้จากงานในมือเข้ามาราว 1,000 ล้านบาท ซึ่ง 700 ล้านบาท มาจากการส่งมอบแท็บเล็ตในเดือนธันวาคม และคาดว่าจะส่งมอบได้หมดในปีนี้ และอีก 300 ล้านบาท รับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีหน้าประมาณ 180 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นงานที่มาจากการวางระบบซอฟต์แวร์ต่างๆ

ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด 250 ล้านบาท ได้หมดภายใน 2 ปีจากนี้ โดยคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมในปีนี้ได้ 100 ล้านบาท พร้อมกับตั้งเป้านำหุ้นกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันในปีนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบบัญชีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

"บริษัทวางเป้าเป็นองค์กรที่มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30% ต่อปี และภายในปี 5 ปีตั้งแต่ปี 2556-2560 บริษัทตั้งเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และคาดหวังจะติดอันดับ 1 ใน 100 ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทำรายได้สูงสุด และจะเป็นองค์กรที่มุ่งหวังให้ผลตอบแทนที่เกินความคาดหมายแก่ผู้ถือหุ้นโดยในช่วง 1-2 ปีนี้ บริษัทมีธุรกิจไอทีที่เป็นรายได้หลักประมาณ 80% ของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งในระยะยาวคาดว่าธุรกิจเทเลคอมหรือติดตั้งสัญญาณจะเป็นรายได้ที่เข้ามาแทน โดยปีหน้าจะเริ่มเห็นผล ทั้งนี้ บริษัทจะเน้นทำธุรกิจในประเทศก่อน แต่ก็มีประเทศเวียดนามและกัมพูชาติดต่อเข้ามา เพื่อให้วางระบบเทเลคอม ซึ่งบริษัทกำลังศึกษาในเรื่องนี้" นายจักรกฤษณ์ กล่าว

อนึ่ง ปัจจุบัน BLISS ได้ถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ขึ้นเครื่องหมาย SP NP และ NC ด้านผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 2 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2554 และ 2555 ที่ 64.29 ล้านบาท และ 50.40 ล้านบาท ตามลำดับ โดยล่าสุดงวด 6 เดือนแรกปีนี้ BLISS พลิกมีกำไร 2.21 ล้านบาท เติบโต 105.04% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 43.80 ล้านบาท