นายสมัตถ์คม ต่างวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากกระแสตอบรับที่ดีของกลุ่มลูกค้าผู้บริโภคที่มีต่อคอนโดมิเนียมแบรนด์ “PYNN (พินน์)” พรีเมียมคอนโดฯ แบรนด์น้องใหม่จากแสนสิริที่เป็น Exclusive Residence ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า Niche Market ได้นำร่องเปิดตัวโครงการแรก พินน์ ปรีดี 20 ที่คาดว่าจะปิดการขาย (Sold out) ได้ในเร็วๆนี้ หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเมษายนที่ผ่านมา ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 80% พร้อมส่งต่อความสำเร็จให้ “พินน์ ศูนย์วิจัย (PYNN Soonvijai)” โครงการล่าสุดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ตอบโจทย์ Real Demand ทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าและซื้อเพื่ออยู่อาศัยที่พร้อม “Pin Your Owned ปักหมุดชีวิตใจกลางเมือง” อีกทั้ง ที่สำคัญ พบว่าหากลูกค้าซื้อห้องชุดเพื่อการลงทุนจะได้รับผลตอบแทนการลงทุน ในการปล่อยเช่า หรือ Yield สูงถึง 8% ในอัตราค่าเช่า 1,000 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 86,000-90,000 บาทต่อเดือน สำหรับห้องชุดแบบ 2ห้องนอน ส่วนห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน ค่าเช่าจะอยู่ที่ 136,000-137,000 บาทต่อเดือน
สำหรับ พินน์ ศูนย์วิจัย เป็นคอนโดฯ Low Rise สูง 7 ชั้น 1 อาคาร บนเนื้อที่ 200 ตารางวา มูลค่าโครงการรวม 260 ล้านบาท สไตล์ Contemporary Modern ที่ผ่านการตีความใหม่ ผสานความต่างของยุคสมัยไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยงานสถาปัตยกรรมที่ลดทอนเส้นสายในอดีตให้ดูเรียบง่ายเกิดเป็นความ Classic ที่ร่วมสมัยรวมถึงฟังก์ชันรองรับการอยู่อาศัยที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ โดยจุดเด่นของโครงการมีจำนวนยูนิตจำกัดเพียง 18 ยูนิตเท่านั้น! ให้ความเป็นส่วนตัวสูงด้วยจำนวนห้องชุดต่อชั้น 3 ยูนิต เป็นห้องเพนท์เฮาส์ยูนิตใหญ่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน มีให้เลือก 2 แบบ คือ 2 Bedrooms ขนาด 86-90 ตารางเมตร จำนวน 12 ยูนิต และแบบ 3 Bedrooms ขนาด 136.75-137.50 ตารางเมตร จำนวน 6 ยูนิต พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอาทิ Rooftop Garden ลาน BBQ รวมถึงที่จอดรถที่มีให้มากถึง 133% หรือจำนวน 24 คัน พื้นที่เก็บของแยกแต่ละห้อง กระเป๋าเดินทาง และจักรยาน พร้อมดีไซน์พิเศษในรูปแบบ Cat Allowed ให้น้องแมวตัวโปรดอยู่ร่วมกับคุณได้อย่างมีความสุข รวมทั้งระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐาน LIV-24 และเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยตลอด 24ชั่วโมง
“พินน์ ศูนย์วิจัย มีขนาดเริ่มต้น 86 ตารางเมตร ไปจนถึง 3 Bedrooms ขนาด 137.50 ตารางเมตร ตั้งอยู่บน NEW CBD พระราม 9 แม้จะเป็นทำเลที่มีคอนโดฯ เปิดตัวหลายโครงการ แต่หาคอนโดฯ ที่มีห้องขนาดใหญ่ได้ยากหรือหากมองหาบ้านก็จะมีราคาที่สูงมาก โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของโครงการ คือ กลุ่มคนที่ซื้อลงทุนปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติที่เดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ โดยส่วนใหญ่มองหาที่พักระยะยาว ได้แก่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เอธิโอเปีย, พม่า, ญี่ปุ่น, รัฐเซีย และยุโรป เป็นต้น ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองจะเป็นกลุ่มแพทย์ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลกรุงเทพฯ เจ้าของธุรกิจที่มองหาคอนโดฯใจกลางเมืองอยู่ใกล้เอกมัย-ทองหล่อ และกลุ่มผู้ปกครองที่มองหาคอนโดฯ ใกล้โรงเรียนลูก” นายสมัตถ์คม กล่าว