ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือนสิงหาคม 2567 สะท้อนวิกฤตซ้ำเติม ผู้ประกอบการห่วงกำลังซื้ออ่อน-ภัยพิบัติซ้ำเติมสถานการณ์

วันพฤหัสบดีที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ดัชนีความเชื่อมั่น SME เดือนสิงหาคม 2567 สะท้อนวิกฤตซ้ำเติม ผู้ประกอบการห่วงกำลังซื้ออ่อน-ภัยพิบัติซ้ำเติมสถานการณ์


ในเดือนสิงหาคม 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SMESI) ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง สะท้อนถึงความกังวลต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดี รวมถึงผลกระทบจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ ซึ่งได้ซ้ำเติมสถานการณ์ให้ยิ่งยากลำบาก

นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ดัชนี SMESI เดือนสิงหาคมอยู่ที่ 49.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าและยังต่ำกว่าค่าฐานความเชื่อมั่นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีปัจจัยลบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว รวมถึงแนวโน้มหนี้สินที่เร่งตัวสูงขึ้น

สถานการณ์อุทกภัยเพิ่มความยากลำบากให้ SME

หนึ่งในปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่น SME ในครั้งนี้คือสถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือและภาคอีสาน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ต้องเผชิญกับการขาดแคลนวัตถุดิบและการตัดขาดเส้นทางการขนส่งสินค้า ผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรมได้รับความเสียหายอย่างหนัก เช่นเดียวกับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและโลจิสติกส์ที่ถูกกระทบโดยตรง การผลิตสินค้าในหลายพื้นที่หยุดชะงัก ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นและราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตาม

ภาคบริการและการค้าชะลอตัวจากกำลังซื้อที่อ่อนแรง

นอกจากนี้ การชะลอตัวของภาคการค้าและบริการยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ SME ลดลง โดยเฉพาะในธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจบริการต่าง ๆ ซึ่งเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวของกำลังซื้อภายในประเทศ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคและยานยนต์ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการ เช่น ห้องเช่าและสปา ก็ได้รับผลกระทบจากการระมัดระวังการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้ภาคบริการปรับตัวลดลงเหลือ 47.5 ในเดือนนี้

ความคาดหวังในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี

แม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่น SME ในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะมีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงอยู่ในระดับความเชื่อมั่นที่ 52.8 ผู้ประกอบการคาดหวังว่าจะได้แรงหนุนจากฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงปลายปี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและของที่ระลึก อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่ยังไม่ชัดเจน ซึ่งอาจส่งผลต่อคำสั่งซื้อในอนาคต

แนวทางการช่วยเหลือจากภาครัฐที่ผู้ประกอบการคาดหวัง

จากสถานการณ์ดังกล่าว สิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนคือการเร่งดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Digital Wallet หรือการกระตุ้นกำลังซื้อในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีความต้องการให้ภาครัฐควบคุมราคาสินค้าและวัตถุดิบที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงผ่อนปรนข้อกำหนดในการเข้าถึงสินเชื่อ โดยเฉพาะสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อให้พวกเขาสามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างทันท่วงที

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้จัดเตรียมมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเหล่านี้ เช่น การจัดหาเงินทุนหมุนเวียนและสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ

ในสถานการณ์ที่ยังไม่แน่นอน SME ไทยต้องการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนเพื่อลดภาระและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและการกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ