นายสานต่อ มุทธสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็กซ์ตร้า ฟิวเจอร์ ซิตี้ พร็อพเพอร์ตี้ รีท จำกัด (บริษัทฯ) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ AXTRART เผยว่า “กองทรัสต์ AXTRART มุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรที่สร้างความไว้วางใจให้กับนักลงทุน ตลอดจนจับมือเคียงข้าง เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกัน เราเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนในอนาคต ผ่านเงื่อนไขของกองทรัสต์ที่สามารถเพิ่มเงินทุนจดทะเบียน และใช้เงินกู้ยืมในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมได้ จึงเป็นที่มาของการเดินหน้าขออนุมัติการแปลงสภาพจากกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ LPF สู่ทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ AXTRART ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากองทุน เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหน่วยในระยะยาว” สำหรับข้อดีและประโยชน์ของการแปลงสภาพเป็นกองทรัสต์ AXTRART สรุปได้ดังนี้
- ขยายโอกาสการลงทุน: กองทรัสต์ AXTRART สามารถออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ สร้างโอกาสในการเติบโตและกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน และสามารถใช้ประโยชน์จากเงินกู้ยืมเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (Gearing Benefit) รวมถึง การบริหารจัดการเงินสดและการชำระคืนหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ลดภาระค่าใช้จ่าย: การลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม ส่งผลให้กองทรัสต์สามารถลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยได้มากขึ้น - รูปแบบการบริหารที่เป็นสากล: กองทรัสต์เป็นรูปแบบการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในระดับสากล มีกฎเกณฑ์และการกำกับดูแลที่เข้มงวด ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับ AXTRART เป็นกองทรัสต์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อรองรับการแปลงสภาพของกองทุนรวม LPF โดยมีอัตราสับเปลี่ยนหน่วยเท่ากับ 1 หน่วยเดิมของกองทุนรวม LPF ต่อ 1 หน่วยใหม่ของกองทรัสต์ AXTRART รวม 2,337,282,928 หน่วย ซึ่ง LPF เป็นกองทุนในดัชนีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (PF&REIT) มีมูลค่าตลาดสูงติดอันดับ 1 ใน 4 ของประเทศไทย มูลค่าสินทรัพย์รวมมากกว่า 32,000 ล้านบาท โดยมีทรัพย์สินในชื่อโลตัส รวม 23 สาขา มีพื้นที่ให้เช่ากว่า 340,000 ตร.ม. ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพทั่วประเทศ สามารถสร้างรายได้ค่าเช่าและค่าบริการมากกว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี มีอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ที่ร้อยละ 96.5 ในปี 2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2567)
ปัจจุบัน LPF มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยในช่วงไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 กองทุนรวม LPF มีรายได้รวม 737 ล้านบาท และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ 556 ล้านบาท โดยที่ผ่านมา กองทุนรวม LPF มีประวัติการจ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 4 ครั้งต่อปี (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนรวม)
ทั้งนี้ ภายหลังการแปลงสภาพจากกองทุนรวมเป็นกองทรัสต์แล้วเสร็จ หน่วยทรัสต์ที่ออกใหม่เพื่อรองรับการแปลงสภาพจะถูกจดทะเบียนในชื่อ 'AXTRART' และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้