ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความต้องการสร้างสังคมที่ยั่งยืน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (กรุงศรี) ได้ก้าวสู่บทบาทผู้นำด้วยแผนงานใหม่ “GO Sustainable with Krungsri” ซึ่งมุ่งเน้นการสนับสนุนธุรกิจและลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว พร้อมตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ด้วยวิสัยทัศน์ “The Leading Sustainable and Regional Bank” กรุงศรีมุ่งมั่นให้การเงินเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญของความยั่งยืน
การเปลี่ยนผ่านสู่ธนาคารแห่งความยั่งยืน
คุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร กรุงศรีกล่าวว่า ธนาคารได้ปรับกลยุทธ์ไปยัง 2 แนวทางหลัก:
1. Sustainable Core Business - ธุรกิจหลักที่ยั่งยืน เน้นการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและอาเซียน พร้อมสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่เอื้อต่อความยั่งยืน
2. Sustainable Society - สังคมและเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยกรุงศรีสนับสนุนลูกค้าให้ปรับเปลี่ยนสู่แนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการลงทุนและการเงินที่ยั่งยืนเพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม
การลดคาร์บอนและเป้าหมาย Net Zero
ในปี 2564 กรุงศรีได้เปิดตัววิสัยทัศน์ “Krungsri Net Zero Vision” โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการทางธุรกิจให้เป็นศูนย์ภายในปี 2573 ซึ่งรวมถึงมาตรการต่าง ๆ เช่น ติดตั้งแผงโซลาเซลล์ เปลี่ยนยานพาหนะของธนาคารเป็นไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับขององค์กร นอกจากนี้ กรุงศรียังได้ปรับปรุงระบบการทำงานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล TCFD (Task Force on Climate-related Financial Disclosures) เพื่อสนับสนุนการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การสนับสนุนลูกค้าผ่านโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืน
กรุงศรีมองว่า การขับเคลื่อนความยั่งยืนจำเป็นต้องมีการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ด้วยเหตุนี้กรุงศรีจึงร่วมมือกับ MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก ในการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนและได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ปัจจุบัน กรุงศรีมีส่วนแบ่งในตลาด ESG Bond Underwriting ประมาณ 20% และยังคงออกผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อ หุ้นกู้ และเงินฝากที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน
หนึ่งในโครงการสำคัญคือ การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน โดยตั้งเป้าหมายสนับสนุนทางการเงินให้ได้ถึง 100,000 ล้านบาทภายในปี 2573 จากปีฐาน 2564 ซึ่งในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กรุงศรีได้มอบเงินสนับสนุนแล้วถึง 76,000 ล้านบาท ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
มุ่งสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนไปด้วยกัน
“การที่เราจะเป็นธนาคารที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงนั้น กรุงศรีต้องสร้างรากฐานด้านความยั่งยืนให้แข็งแกร่ง” คุณไพโรจน์กล่าว “เรามุ่งมั่นที่จะเป็น Market Shaper ที่นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในภาคการเงินและสังคมไทย ด้วยความรู้และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน เราพร้อมสนับสนุนลูกค้าและพันธมิตรทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน”
การขับเคลื่อนของกรุงศรีครั้งนี้เป็นมากกว่ากลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงในภาคการเงินของประเทศและสังคมไทย เป็นอีกก้าวสำคัญสู่อนาคตที่ธนาคารจะไม่เพียงเป็นแหล่งเงินทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันที่สำคัญต่อเศรษฐกิจที่ยั่งยืน