ขร.เผยวันลอยกระทง 67 มีคนใช้บริการระบบรางเกือบ 1.98 ล้านคน-เที่ยว โดยรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) มีผู้ใช้บริการมากที่สุดตั้งแต่เปิดให้บริการ
วันนี้ (16 พ.ย. 67) นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. 67 มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) จำนวน 558,165 คน-เที่ยว สูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการมา (นิวไฮ) โดยก่อนหน้านี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สีน้ำเงิน) สูงสุดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ซึ่งมียอดผู้ใช้บริการจำนวน 555,976 คน-เที่ยว
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 พ.ย. 67 ตรงกับวันลอยกระทง มีผู้ใช้บริการระบบราง รวมทั้งสิ้น 1,979,601 คน-เที่ยว โดยเพิ่มขึ้นจากวันลอยกระทง ปี 2566 (27 พ.ย. 66) จำนวน 78,937 คน-เที่ยว หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.15 ของผู้ใช้บริการระบบรางภาพรวม ซึ่งประกอบด้วย
1. รถไฟระหว่างเมืองของ รฟท. ให้บริการเดินรถไฟ 209 ขบวน มีผู้ใช้บริการรวม 81,946 คน-เที่ยว แบ่งเป็นขบวนรถเชิงพาณิชย์ 30,757 คน-เที่ยว และขบวนรถเชิงสังคม 51,189 คน-เที่ยว
2. รถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,897,655 คน-เที่ยว ประกอบด้วย
- รถไฟฟ้า Airport Rail Link ให้บริการ 215 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 10 เที่ยววิ่ง) จำนวน 81,748 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายสีแดง ให้บริการ 294 เที่ยววิ่ง จำนวน 45,067 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ให้บริการ 321 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 3 เที่ยววิ่ง) จำนวน 86,279 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) ให้บริการ 494 เที่ยววิ่ง (รวมเสริม 28 เที่ยววิ่ง) จำนวน 558,165 คน-เที่ยว ซึ่งมีผู้ใช้บริการสูงสุดตั้งแต่เปิดให้บริการ
- รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว (สายสุขุมวิทและสายสีลม) ให้บริการ 1,240 เที่ยววิ่ง จำนวน 971,068 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้า BTS สายสีทอง ให้บริการ 219 เที่ยววิ่ง จำนวน 22,153 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลืองให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 54,050 คน-เที่ยว
- รถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพูให้บริการ 276 เที่ยววิ่ง จำนวน 79,125 คน-เที่ยว
ทั้งนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า นโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายอยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... สอดคล้องกับแผนที่กำหนดไว้ว่า ค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จะสามารถใช้ได้ในทุกเส้นทาง ทุกสี ภายในเดือนกันยายน 2568 อย่างแน่นอน เพื่อลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับประชาชนต่อไป