เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูฯ ระบุ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ 4 หน่วยงานในสังกัด เร่งสำรวจข้อมูลเพื่อทำแผนแก้ปัญหาหนี้ของเกษตรกรเกี่ยวกับระบบการผลิต และการฟื้นฟูเกษตร ที่ค้างนานกว่า 30 ปี ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) กล่าวถึงผลการประชุมติดตามโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร (คปร.) และโครงการแผนฟื้นฟูการเกษตร (ผกก.) ที่มีนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุม ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาว่า การประชุมดังกล่าว มีหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังและผู้แทน ธ.ก.ส. เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ คปร. และ ผกก. ที่ค้างมานานตั้งแต่เริ่มทำโครงการปี 2534-2539
ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิก กฟก.ที่ขึ้นทะเบียนหนี้ และระบุประเภทหนี้เป็นหนี้โครงการส่งเสริมของรัฐอยู่จำนวน 20,353 ราย 23,907 สัญญา มูลหนี้ทั้งสิ้น 1,059,590,517.84 บาท โดยที่ประชุมเห็นชอบกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ออกเป็นสองระดับดังนี้ 1. กรณีหนี้ไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย มอบหมายให้หน่วยงานที่เป็นเจ้าของโครงการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี 2. กรณีหนี้เกิน 10,000 บาท ขึ้นไปให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้ให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ 4 หน่วยงานได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร มีลูกหนี้ จำนวน 128,672 สัญญา กรมปศุสัตว์ จำนวน 2,596 สัญญา กรมชลประทาน จำนวน 66 สัญญา และกรมป่าไม้ จำนวน 34 สัญญา ทำการสำรวจข้อมูลลูกหนี้ทุกรายให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อนำมาคัดแยกข้อมูลและนำไปสู่การจัดทำแผนแก้ไขปัญหาหนี้ตามระเบียบของคณะกรรมบริหารสินเชื่อการเกษตร ( กบส. ) ต่อไป ทั้งนี้ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการประสานงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการปรับโครงสร้างและระบบการผลิตการเกษตร ซึ่งมี นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ดำเนินการจัดประชุมและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ และนำมารายงานให้ทราบ