บมจ.ทีโอเอ เพ้นท์ฯ หรือ TOA เผยไตรมาส 3/67 มีรายได้รวม 5,124 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวม 9 เดือน เป็นเงิน 16,065 ล้านบาท แม้จะได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่อัตรากำไรขั้นต้นมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน พร้อมเร่งเครื่องเดินหน้าพิชิต Net Zero ด้วยกลยุทธ์การพัฒนา ต่อยอดนวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างรักษ์โลกคาร์บอนต่ำ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG)
นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ยังชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อของประชาชนและการเข้าถึงเงินทุนของภาคเอกชน ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างซบเซา ประกอบกับเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างมาก ทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 3/67 มีรายได้รวม 5,124 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6% ในขณะที่รายได้รวม 9 เดือน เป็นเงิน 16,065 ล้านบาท ลดลง 4% แต่อัตรากำไรขั้นต้นใน 9 เดือนที่ผ่านมา (Gross Profit Margin) ยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน คิดเป็น 34.7% เมื่อเทียบกับปี 66 จาก 33.7% อันเป็นผลมาจากการวางแผนกลยุทธ์ระยะยาว และการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักใน Q3/2567 คิดเป็นเงิน 550 ล้านบาท และรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา เป็นเงิน 1,798 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งไม่รวมจากการผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินและค่าสินทรัพย์หนี้สินในสกุลเงินต่างประเทศ
บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าภาพรวมของธุรกิจจะฟื้นตัวใน Q4/67 ต่อเนื่องจนถึงปี 68 อันมาจากปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ อาทิ ในช่วงปลายปีจะเป็นไฮซีซั่นของการก่อสร้าง ประกอบกับการต้องการซื้อสีและวัสดุก่อสร้าง เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟูบ้านเรือนภายหลังน้ำท่วมจะทำให้ตลาด Renovate เติบโต รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดภาระของประชาชนและภาคธุรกิจ ยังคงมีส่วนช่วยให้ภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนมีกำลังจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
นอกจากนี้ นายจตุภัทร์ ยังกล่าวถึงทิศทางการเดินหน้าองค์กรอย่างยั่งยืนว่า “ตลอดระยะเวลา 60 ปี TOA ดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมสีที่ปลอดภัย ดีต่อสุขอนามัยของผู้บริโภค และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล จนทำให้ขึ้นแท่นเป็น “องค์กรผู้นำด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก ระดับยอดเยี่ยม” (Climate Action Leading Organization : CALO) ประจำปี 2567 ในสาขาอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง เราจึงพร้อมจับมือไปกับพันธมิตรธุรกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกันในการขับเคลื่อนองค์กรยั่งยืนสู่ Net Zero และยกระดับมาตรฐานที่อยู่อาศัยด้วยการเลือกใช้นวัตกรรมสีรักษ์โลกและวัสดุก่อสร้างที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การันตีด้วยฉลากลดโลกร้อน (CFR) ทำให้
ปัจจุบัน TOA มีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ ฉลากลดโลกร้อน (CFR) สูงถึง 42 รายการผลิตภัณฑ์ รวมทั้งผลิตภัณฑ์ยิปซั่มของ TOA ยังเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่ได้รับฉลากลดโลกร้อน CFR อีกด้วยและเราไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ แต่ยังคงเดินหน้า ต่อยอด พัฒนานวัตกรรมสีและวัสดุก่อสร้างรักษ์โลก เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำของประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้นโยบาย ‘Green Mission’ ด้วย 7 กลยุทธ์หลักที่ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม”