สส. คนไทหล่ม พรรคพลังประชารัฐเผย บุหรี่ไฟฟ้าใต้ดินเป็นภัยคุกคาม กระทบชาวไร่ยาสูบ ทำรายได้ลด เชื่อ กมธ. วิสามัญบุหรี่ไฟฟ้า พิจารณาผลกระทบในทุกมิติ ยันไม่ทอดทิ้งชาวไร่ยาสูบ

นายจักรัตน์ พั้วช่วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ และหนึ่งในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย เผยภายหลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการดำเนินงานของ กมธ. และรายงานการศึกษาเรื่องดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการจัดทำให้สมบูรณ์ก่อนนำเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้มีทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายคัดค้านออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง ว่า

“ความตั้งใจของ กมธ. ชุดนี้คือการแสวงหาแนวทางหรือมาตรการที่จะควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์และส่งผลดีและสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทยในปัจจุบันให้มากที่สุด แม้ว่าจะมีการห้ามนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ามากว่า 10 ปีแล้ว  แต่เราไม่สามารถปฏิเสธการมีอยู่ของบุหรี่ไฟฟ้าได้อีกต่อไป เพราะมันแพร่หลายไปทั่ว มีผู้ใช้ราว 700,000-1,000,000 คนในประเทศไทย เราต้องยอมรับความจริงและหาทางแก้ไขร่วมกันผ่านกลไกของรัฐสภาที่มีตัวแทนจากทุกฝ่ายเข้ามานำเสนอข้อมูลในทุกด้าน”

นายจักรัตน์ เสริมว่า “บุหรี่ไฟฟ้าที่อยู่ใต้ดินแบบในปัจจุบันเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวไร่ยาสูบในจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดอื่นๆ กว่า 20,000 ครอบครัวที่พึ่งพิงรายได้จากการขายใบยาสูบ เนื่องจากบุหรี่ไฟฟ้าได้เข้ามาแทนที่บุหรี่แบบมวนที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง ส่งผลต่อปริมาณการรับซื้อใบยาจากชาวไร่ยาสูบที่ลดลงตามไปด้วย และภาษีสรรพสามิตที่ลดลงก็มาจากการเพิ่มขึ้นของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งหมายถึงงบประมาณสำหรับการช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบที่ลดลงตามไปด้วย แม้ว่าผมจะได้ผลักดันให้มีการปรับขึ้นราคาซื้อใบยาสูบเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีได้สำเร็จ แต่ก็ยังไม่อาจทดแทนโควตาของชาวไร่ยาสูบที่หายไปได้ ซึ่งผมจะผลักดันช่วยเหลือชาวไร่ยาสูบต่อไป ไม่ทอดทิ้งชาวไร่ยาสูบอย่างแน่นอน”

ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ได้รับการควบคุมให้ถูกต้องตามกฎหมายใน 80 กว่าประเทศทั่วโลก  แต่สำหรับประเทศไทยมีการห้ามนำเข้าและห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและยาสูบให้ความร้อนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 ในสมัยรัฐบาล คสช.