นายดิลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) กล่าวว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทสร้างผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับปีก่อน อยู่ที่ 7,750 ล้านบาท ซึ่งความแข็งแกร่งต่อเนื่องนั้นอยู่ในธุรกิจโรงแรมขับเคลื่อนโดยการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนและการขยายตัวของตลาดควบคู่ไปกับผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของธุรกิจร้านอาหารที่ได้รับแรงหนุนจากนวัตกรรมของแบรนด์และจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จในการเพิ่มประสิทธิการดำเนินงาน โดยได้รับประโยชน์จากโมเดลธุรกิจที่ลดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Asset-light Model) ที่เติบโตขึ้น ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงวินัยทางการเงินผ่านการลดหนี้
โดย MINT ยังคงขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโรงแรมใหม่ 30 แห่งที่มีห้องพักกว่า 3,000 ห้องในปี 2567 ภายใต้โมเดลธุรกิจ Asset-light Model เป็นหลัก ส่งผลให้ MINT มีฐานการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และโอเชียเนีย โดยการเปิดตัวโรงแรมครั้งสำคัญ ได้แก่ โรงแรม NH Collection Helsinki Grand Hansa ในประเทศฟินแลนด์ โรงแรม Anantara Stanley & Livingstone Victoria Falls ในประเทศซิมบับเว และ Anantara Jewel Bagh Jaipur Hotel ในรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเป็นผู้นำของ MINT ในตลาดใหม่ๆ ที่มีอัตราการเติบโตสูง
สำหรับในปี 2568 MINT ยังคงเดินหน้าตอกย้ำความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ของเรา ด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เราพร้อมที่จะเร่งการเติบโตในปี 2568 และในอนาคต เราจะยังคงใช้ประโยชน์จากแนวโน้มการท่องเที่ยวทั่วโลก ขยายโมเดลธุรกิจ Asset-light Model และขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารของเราต่อไป เราจะมุ่งเน้นไปที่การส่งมอบผลกำไรที่ยั่งยืนและเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาวขณะที่เราขยายฐานการดำเนินงานไปทั่วโลก
ดังนั้น ในปีนี้ทางเราได้ใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 โดยมี ลิซ่า BLACK PINK ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของโลกที่ได้ร่วมแสดง และที่ได้ใช้โรงแรมในเครือไมเนอร์ในไทยถ่ายทำทั้งสิ้นจำนวน 4 แห่ง อยู่ในภูเก็ตและสมุย ได้แก่ 1. อนันตรา ลาวาณา เกาะสมุย รีสอร์ท 2. อนันตรา บ่อผุด เกาะสมุย รีสอร์ท 3. อนันตรา ไม้ขาว ภูเก็ต วิลล่าส์ และ 4.โฟร์ซีซันส์ รีสอร์ท เกาะสมุย ที่จะสร้างการรับรู้ และสร้างชื่อเสียงให้ธุรกิจเราให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากลูกค้าทั่วโลกที่ได้รับชมซีรีย์เรื่องดังกล่าวผ่านช่อง HBO ซึ่งขณะนี้โรงแรมทั้ง 4 แห่งได้รับการตอบรับดีมากส่งผลให้ตอนนี้ราคาค่าห้องพักต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 40 %
นอกจากนี้ MINT อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดตัวโรงแรมเชิงกลยุทธ์ในประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และซาอุดีอาระเบีย เพื่อขยายการดำเนินงานในตลาดสำคัญที่มีการเติบโตสูง ตลอดจนการเติบโตของร้านอาหารผ่านนวัตกรรมของแบรนด์ การปรับรูปแบบร้านค้าให้มีความหลากหลาย และการขยายแฟรนไชส์
สำหรัลธุรกิจร้านอาหาร ไมเนอร์ ฟู้ด มียอดขายโดยรวมทุกสาขา (TSS) ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และสิงคโปร์มียอดขายรวมเติบโตขึ้นร้อยละ 12 เป็นผลมาจากการขยายตัวของยอดขายต่อร้านเดิมและจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น โดยเรามีความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนานวัตกรรมและแนวคิดที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคนำไปสู่การเปิดตัวแบรนด์และรูปแบบร้านค้าใหม่ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เช่น ร้าน สเต็ก แอนด์ มอร์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นตัวเลือกการรับประทานอาหารระดับพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงได้ และร้าน แบทเทอร์แคช (สิงคโปร์) ซึ่งเป็นแนวคิดร้านฟิชแอนด์ชิปส์สมัยใหม่ที่ดึงดูดผู้บริโภคในเมือง
ในขณะเดียวกัน ไมเนอร์ ฟู้ดได้เร่งการขยายธุรกิจด้วย Asset-light Model ผ่านความสำเร็จของการขายแฟรนไชส์ทรัพย์สินทางปัญญาระดับโลกที่บริษัทเป็นเจ้าของ เช่น เบนิฮานา, ซิซซ์เล่อร์ และกาก้า โดยมีการเปิดร้านเบนิฮานาที่กรุงปารีส การเปิดสาขาซิซซ์เล่อร์หลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นและเวียดนาม และการขยายสาขาร้านกาก้าทั่วประเทศไทย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม MINT กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางแผนแผนงานเชิงกลยุทธ์ภายใน 3 ปี นับจากนี้ ตั้งแต่ปี 2567–2570 MINT ภายใต้งบลงทุนที่วางไว้ 11,000 ล้านบาท ในการการขยายธุรกิจ และรีโนเวท กลุ่มธุรกิจในเครือทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการขยายกลุ่มธุรกิจทั่วโลกสู่โรงแรม 850 แห่งและร้านอาหาร 4,000 แห่งภายในปี 2570 และ ในปี 2072 ก้าวสู่โรงแรม 1,000 แห่ง และร้านอาหาร 4,500 แห่ง โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้นับจากนี้ต่อปีแบบทบต้น (CAGR) อยู่ที่ร้อยละ 6-8 ส่วนการเติบโตของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่ร้อยละ 15-20 และอัตราผลตอบแทนต่อเงินลงทุนมากกว่าร้อยละ 12