นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินธุรกิจในปี 2567 ที่ผ่านมา OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังคงสร้าง การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปี 2567 (มกราคม - ธันวาคม 2567) บริษัทมีสินทรัพย์ 106,769 ล้านบาท เงินสำรองประกันชีวิต 79,249 ล้านบาท และอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) 395.17% ซึ่งสูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ร้อยละ 140% ขณะเดียวกันมีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 14,123 ล้านบาท และอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 85% โดยมีผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 4.72% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,110 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศไทยปี 2568 นี้ คาดการณ์การว่ายังไม่ค่อยจะดีขึ้นเท่าไหร่นัก อันเนื่องมาจากโลกยังคงเต็มไปด้วยความผันผวนไม่แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสถานการณ์เงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ที่ส่งผลกระทบต่อการออม การลงทุน นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานการรายงานทางการเงิน TFRS 17 ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2568 รวมถึงต้องติดตามสถานการณ์สงครามการค้าโลกหรือความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจ กระทบต่อเศรษฐกิจไทยทั้งด้านการค้าและบริการ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังไม่ยุติ ก่อให้เกิดความผันผวนและความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ที่ทำให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตยังคงต้องติดตามปัจจัยท้าทายดังกล่าวในการวางแผนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งในปีนี้สมาคมประกันชีวิตไทยได้ประมาณการอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิตอยู่ร่าว 2-3 %
อย่างไรก็ตาม OCEAN LIFE ไทยสมุทร ปีนี้เราอยากที่จะเติบโตกว่าอุตสาหกรรมอยู่ที่เป้าหมายโตประมาณ 10 % ซึ่งการโตของเรานั้นเรายึดหลักการเติบโตแบบยั่งยืนและมีความมั่นคงทางการเงินเป็นสำคัญ โดยแผนธุรกิจของ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ปี 68 นี้ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ "Love Mindset - Love Solution" เพื่อใช้พลังความรักเป็นแรงขับเคลื่อนศักยภาพด้านการประกันชีวิตให้เข้าไปมีส่วนช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าประชาชน โดยเพิ่มเติมการพัฒนาโซลูชันหรือทางออกที่เหมาะสมซึ่งมาจากมุมมองของความรักให้สามารถจับต้องได้จริง ผ่านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันสะสมทรัพย์ และแบบประกันอื่น ๆ ที่ออกแบบจากความเข้าใจถึงปัญหา ความกังวล และความต้องการที่แตกต่างของแต่ละช่วงวัยในทุกเจนเนอเรชัน พร้อมไม่หยุดในการพัฒนาการบริการให้สอดรับโลกยุคดิจิทัลเพื่อทำให้การประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายตามวิสัยทัศน์ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น OCEAN CLUB Application บริการ OCEAN CONNECT และ OCEAN LIFE DIGITAL HEALTHCARE SERVICES นอกจากนั้น ยังเดินหน้าสร้างทีมที่ปรึกษาประกันชีวิตยุคใหม่ "New Era Team Power to Success" โดยมุ่งยกระดับที่ปรึกษาประกันชีวิตให้มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมดึงดูดคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ Gen Y เข้าร่วมทีม ด้วยการพัฒนาศักยภาพผ่านหลักสูตรอบรมที่เข้มข้นและทันสมัยจาก OCEAN ACADEMY
ผู้บริหาร คนสวย กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทจะปรับกลยุทธ์เพื่อครอบคลุมทั้งแบรนด์ ลูกค้า และที่ปรึกษาประกันชีวิต โฟกัสขยายเจาะกลุ่ม Gen Y เป็นสำคัญ เนื่องมาจากที่ผ่านมาเราได้ศึกษาบริบทและความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ และพบว่า Gen Y เป็นกลุ่มประชากรที่มีจำนวนมากที่อยู่ในวัยทำงาน และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในแง่ของหน้าที่การงาน ความรับผิดชอบ และไลฟ์สไตล์ ดังนั้น บริษัทจึงได้นำศักยภาพด้านประกันชีวิต มาเป็นตัวช่วยสำคัญในการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของคน Gen Y ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1. “แบรนด์ที่โดนใจ” มากกว่าความน่าเชื่อถือ แต่แบรนด์ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในปี 2568 จะต้องทัชใจโดนใจ Gen Y มากยิ่งขึ้น ด้วยแคมเปญใหม่ การนำเสนอรูปแบบใหม่ ที่จะเปิดตัวภายในปีนี้
2. “แบบประกันและบริการที่คุ้มค่า” Gen Y ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่าย ดังนั้นบริษัทจึงออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ หรือประกันโรคร้ายแรง ที่มอบความคุ้มครองที่ครอบคลุมและคุ้มค่า จึงเป็นเลือกที่สอดรับกับความต้องการของ Gen Y
3. “ที่ปรึกษาประกันชีวิตที่เข้าใจคนรุ่นใหม่” นอกจากการพัฒนาตัวแทนประกันชีวิตสู่การเป็นที่ปรึกษาประกันชีวิต บริษัทยังเน้นเสริมทัพคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยทีม ในการรองรับดูแลลูกค้าที่เป็น Gen Y มากยิ่งขึ้น
CEO OCEAN LIFE กล่าวทิ้งท้ายว่า เนื่องในโอกาสบริษัทก้าวสู่ปีที่ 76 การเดินหน้าขับเคลื่อนแคมเปญ Love Mindset โดยเพิ่มศักยภาพผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Insight-Driven Solutions) เพื่อเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าอย่างแม่นยำ และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น ผ่าน 3 โซลูชันหลัก ได้แก่
1. Healthiverse Solution – พบคำตอบของความรักสุขภาพ เริ่มที่ตัวเอง ดูแลคนที่รักให้สุขภาพดีไม่ป่วย ปิดความเสี่ยงด้วยประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ที่มาพร้อมบริการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร
2. Wealthiverse Solution – พบคำตอบของความรักการออมและการวางแผนการเงิน เริ่มด้วยการใช้เงินเป็น มีเหลือเก็บ รู้จักลงทุน และใช้ประกันสะสมทรัพย์ หรือ ประกันชีวิตควบการลงทุน เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือช่วยปิดความเสี่ยงทางการเงิน
3. Happiverse Solution – พบคำตอบของความรักษ์โลก เราหวังเห็นทั้งสิ่งแวดล้อม และสังคมที่ดี มีความยั่งยืน ทุกเจนเนอเรชันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ด้วยการเดินหน้าสร้าง Roadmap สู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตด้านความยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบในอนาคต
อีกทั้ง OCEAN LIFE ไทยสมุทร เดินหน้าพัฒนา E-Service อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น E-Buy การซื้อประกันออนไลน์ E-Application ขั้นตอนการขอทำประกันที่สามารถทำธุรกรรมแบบ Real-time E-Policy กรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ E-Claim เคลมออนไลน์ 24 ชั่วโมง และ E-Loan กู้เงินตามกรมธรรม์ได้ง่าย ๆ
นอกจากนี้ OCEAN CONNECT ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อลูกค้าผ่าน LINE Official Account @oceanlife ช่วยให้สามารถลงทะเบียนตรวจสอบกรมธรรม์ ชำระเบี้ย เช็คสถานะการเคลม ค้นหาโรงพยาบาลคู่สัญญาได้ง่าย และบริการอื่น ๆ อีกมากมายครบจบในที่เดียว
อีกก้าวสำคัญคือ OCEAN CLUB APP ที่ได้พัฒนาเวอร์ชันใหม่ ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพครบวงจรด้วยฟีเจอร์ Nutrition – Exercise – Relax พร้อม AI วิเคราะห์ความเสี่ยงโรคมะเร็ง และจับคู่กับอุปกรณ์ Wearable เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพได้ รวมถึงยังเป็นแอปสำหรับสะสม Ochi Coin ใช้แลกรับสิทธิประโยชน์พิเศษอีกมากมาย และ OCEAN LIFE DIGITAL HEALTHCARE SERVICES ที่ครอบคลุมการดูแลสุขภาพทั้งก่อนป่วย ระหว่างป่วย และหลังป่วยสำหรับลูกค้า OCEAN LIFE ไทยสมุทร โดยเฉพาะ ล่าสุดได้เปิดบริการ OCEAN LIFE Medical Advisor บริการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็ง OCEAN LIFE พาหาหมอ บริการช่วยเดินทางพบแพทย์ VNurse Care พยาบาลดูแลถึงบ้าน Telemed ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ร่วมกับ BEDEE ซึ่งเป็นบริการด้านสุขภาพเครือ BDMS และ Asian Assistance บริการช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉิน