ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ยืนยันบทบาทสำคัญของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่สามารถตอบสนองความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
รายงานจาก Global Energy Monitor (GEM) และ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่าความต้องการพลังงานจากถ่านหินยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว รวมถึงความต้องการพลังงานจากการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยในปี 2024 กำลังการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินทั่วโลกแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,175 กิกะวัตต์
โรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ในฐานะผู้ผลิตไฟฟ้ารายสำคัญของไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อให้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้อย่างมั่นคงและต่อเนื่อง รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังลงทุนในเทคโนโลยีลดมลภาวะ เช่น ระบบดักจับฝุ่นและก๊าซเสีย, การจัดการน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการศึกษาเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมผลักดันพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
โรงไฟฟ้าบีแอลซีพีเชื่อว่า พลังงานจากถ่านหินและพลังงานสะอาดสามารถเดินหน้าควบคู่กันไปได้ โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ เพื่อสร้างอนาคตที่สมดุลระหว่างความมั่นคงทางพลังงานและการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
บีแอลซีพี มุ่งพัฒนาพลังงานที่มั่นคง เพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน