โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมานับเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจเผชิญกับความท้าทายในหลากหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง แต่ทว่าท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (AZAY) ยังคงเติบโตแข็งแกร่งเหนือตลาดในทุกช่องทาง สร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) เติบโต 8% แตะ 3.93 หมื่นล้านบาท ขณะที่เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (ANP) เพิ่มขึ้น 14% แตะ 8.4 พันล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคงของธุรกิจประกันชีวิต แม้ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจชะลอตัว การเติบโตดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากช่องทางตัวแทนที่ขยายตัว 17% แตะ 3.8 พันล้านบาท และช่องทางธนาคารที่เติบโตถึง 27% แตะ 3.1 พันล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเครือข่ายการขายหลักของบริษัท ซึ่งสามารถเข้าถึงและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้าน บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย (AAGI) มีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้น 7% แตะ 1.09 หมื่นล้านบาท ขับเคลื่อนโดย ประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ (A&H) ที่เติบโตสูงถึง 9% แตะ 3.9 พันล้านบาท ขณะที่ ประกันภัยรถยนต์เติบโต 4% แตะ 3.4 พันล้านบาท ประกันวินาศภัยอื่น ๆ เติบโต 7% แตะ 3.6 พันล้านบาท
โทมัส วิลสัน กล่าวต่อว่า สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี 2568 นี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ลุยเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตผ่านกลยุทธ์การพัฒนาเครือข่ายตัวแทนและการขยายความร่วมมือช่องทางธนาคาร อย่างต่อเนื่อง เรามุ่งเน้น การเพิ่มจำนวนและคุณภาพของตัวแทนมืออาชีพ ผ่านโครงการพัฒนาศักยภาพแบบเข้มข้น เพื่อสร้างเครือข่ายตัวแทนที่แข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ในตลาดผ่านโปรแกรมการแข่งขันและฝึกอบรมต่างๆ นอกจากนี้ เราให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของตัวแทนระดับ ท็อป ผ่านโครงการ Elite โครงการ Blue Star และโครงการ Blue Star X ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนให้ก้าวสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ เพื่อช่วยสร้างเครือข่ายผู้นำที่แข็งแกร่งในองค์กร ทั้งหมดนี้จะช่วยยกระดับศักยภาพของเครือข่ายตัวแทนให้สามารถแข่งขันและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกัน เราได้กำลังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งกับพันธมิตรช่องทางธนาคารอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความร่วมมือกับธนาคารกรุงศรี ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางนี้ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ครบวงจร รองรับทั้งการออม การลงทุน และการคุ้มครองสุขภาพ พร้อมพัฒนา นวัตกรรมดิจิทัล ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเลือกแผนประกัน จัดการกรมธรรม์ และเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้สะดวกยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นว่าการเสริมความแข็งแกร่งของทั้งสองช่องทางนี้ จะช่วยให้เราสามารถขยายการเข้าถึงลูกค้าและสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในปี 2568
ด้าน นาย ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย นั้น ในปี 2568 เราจะขยายขีดความสามารถด้วยกลยุทธ์สำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ (1) การกระจายพอร์ตผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งขยายโอกาสธุรกิจที่มากไปกว่าประกันรถยนต์ โดยจะเน้นไปที่ประกันสุขภาพ การคุ้มครองความเสี่ยงธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) และการคุ้มครองบ้านและทรัพย์สินอื่นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตสูง พร้อมเพิ่มโซลูชันที่ตอบโจทย์ธุรกิจรายย่อยและองค์กร (2) การเสริมความแข็งแกร่งของช่องทางการจัดจำหน่าย โดยมุ่งเสริมศักยภาพของทั้งโบรกเกอร์และตัวแทนประกันรถยนต์เดิม ให้มีความสามารถแนะนำประกันภัยชนิดอื่นๆให้กับลูกค้าได้ด้วย เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ (3) ขยายธุรกิจประกันภัยเชิงพาณิชย์ Allianz Commercial ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถให้บริการประกันภัยที่ครอบคลุมสำหรับภาคธุรกิจขนาดใหญ่และกลุ่มองค์กร โดยเฉพาะในกลุ่ม ประกันภัยทรัพย์สิน วิศวกรรม การขนส่ง และความรับผิดทางกฎหมาย เราเชื่อว่าการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์เหล่านี้ จะช่วยให้อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย สามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดประกันภัยไทยในอนาคต"
สำหรับในด้านของภาพรวมธุรกิจ อลิอันซ์ อยุธยา เดินหน้าธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ One Allianz Ayudhya มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการด้านประกันภัยแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกมิติ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิต สุขภาพ รถยนต์ ทรัพย์สิน ธุรกิจSME การเดินทาง และประกันภัยเชิงพาณิชย์ ลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองที่หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้นผ่านกลยุทธ์การขายต่อเนื่อง (upsell) และการขายผลิตภัณฑ์เสริม (cross-sell) และด้วยโครงสร้างที่ผสานความร่วมมือระหว่างหน่วยธุรกิจต่างๆ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถให้บริการที่ไร้รอยต่อ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและพันธมิตรมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน อาทิ เช่น ในธุรกิจประกันสุขภาพ โดยมีการพัฒนาระบบการดูแลลูกค้า ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การป้องกัน, ก่อนเข้ารับการรักษา ช่วงระหว่างการรักษา จนถึงดูแลฟื้นฟูหลังการรักษาพยาบาล โดยปัจจุบัน อลิอันซ์ อยุธยา มีเครือข่ายโรงพยาบาลมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ เรายังใช้ความแข็งแกร่งจากการเป็นผู้ให้บริการประกันสุขภาพอันดับ 2 ของประเทศ เพื่อขยายตลาดและตอกย้ำความเป็นผู้นำในฐานะบริษัทประกันภัยที่เข้าใจและพร้อมดูแลลูกค้าอย่างครบวงจรในประเทศไทย
“ด้วย กลยุทธ์ One Allianz Ayudhya ที่ผสานความแข็งแกร่งของ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่ง กลยุทธ์ที่ชัดเจน และความมุ่งมั่นของทีมงาน เรามั่นใจว่าอลิอันซ์ อยุธยา จะสามารถก้าวขึ้นเป็นบริษัทประกันภัยที่ลูกค้าไว้วางใจและเลือกใช้บริการมากที่สุดในประเทศไทย โดยเป้าหมายสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมในธุรกิจประกันชีวิต เติบโต 10% ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท และธุรกิจประกันภัย เติบโต 12% เบี้ยประกันภัยรับรวมแตะ 1.2 หมื่นล้านบาท”
ทั้งนี้ กลุ่มอลิอันซ์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นหลัก ของ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย ได้รายงานผลประกอบการปี 2024 เติบโต โดยมีมูลค่าธุรกิจรวมเพิ่มขึ้น 11.2% แตะระดับ 1.8 แสนล้านยูโร เมื่อปรับมูลค่าจากอัตราแลกเปลี่ยนและการควบรวมกิจการ โดยกลุ่มธุรกิจ ประกันชีวิตและสุขภาพ เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโต ควบคู่ไปกับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธุรกิจ ประกันวินาศภัย ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานแตะระดับ 1.6 หมื่นล้านยูโร (12 เดือนปี 2023: 1.47 หมื่นล้านยูโร) เพิ่มขึ้น 8.7% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากทุกกลุ่มธุรกิจ ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนเงินกองทุน Solvency II ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 209% ณ สิ้นปี 2024