ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมคิด อมรสมานกุล หัวหน้าภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า ปัจจุบัน ตลาดแรงงานมีความต้องการบุคลากรที่จบจากภาควิชาคณิตศาสตร์สูงขึ้น โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) บล็อกเชน การรักษาความปลอดภัยของคริปโตเคอร์เรนซี และดิจิทัลมันนี่ อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดว่า การศึกษาด้านคณิตศาสตร์จำเป็นต้องเป็นอาจารย์เพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้ว มีโอกาสในหลากหลายสาขาอาชีพที่น่าสนใจและท้าทาย

การเรียนคณิตศาสตร์ไม่ได้จำกัดแค่การทำงานในภาคการศึกษาเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ได้ในหลายๆ อุตสาหกรรม โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลและเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วน ตัวอย่างเช่น การใช้คณิตศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Science) ซึ่งเป็นศาสตร์ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับความนิยมในตลาดแรงงานปัจจุบัน นักคณิตศาสตร์สามารถทำงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่ (Big Data) การพัฒนาอัลกอริธึม (Algorithm) และการทำนายผล (Predictive Analytics) ซึ่งมีความสำคัญต่อการตัดสินใจในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ

นอกจากนี้ คณิตศาสตร์ยังมีบทบาทสำคัญในการประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เช่น การคำนวณความเสี่ยงในธุรกิจประกันภัย การพัฒนาโมเดลทางการเงิน การคำนวณราคาประกันที่เหมาะสม และการออกแบบระบบการเงินดิจิทัลต่างๆ ทั้งนี้ นักคณิตศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสถิติประยุกต์และการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ยังสามารถทำงานในด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะในสาขาสถิติทางการแพทย์ การพัฒนาโมเดลทางชีวภาพ การวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ และการทำนายแนวโน้มโรค ซึ่งช่วยให้การรักษาและการวินิจฉัยโรคมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เพื่อสร้างความเข้าใจและเพิ่มโอกาสให้กับนักเรียน นักศึกษาและผู้ปกครอง ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้จัดโครงการ "Mathematics Day for Sustainable Society 2025" ขึ้น เพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนคณิตศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการประกอบอาชีพในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว

ภายในงานมีการบรรยายจากผู้ที่จบการศึกษาด้านคณิตศาสตร์และประสบความสำเร็จในหลากหลายสายอาชีพ รวมถึงผู้บริหารในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะมาเล่าถึงประสบการณ์และโอกาสในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ ทั้งในสายงานวิจัย การเงิน การแพทย์ และเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมงานเข้าใจมากขึ้นว่า คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานสำคัญในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีความต้องการบุคลากรที่มีทักษะทางคณิตศาสตร์อย่างต่อเนื่อง

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.ยงค์วิมล เลณบุรี ที่ปรึกษาภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวเพิ่มเติมว่า นักศึกษาที่จบจากภาควิชาฯ ได้มีโอกาสทำงานในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ประกันภัย ธนาคาร การเงิน การแพทย์ และเทคโนโลยี และได้รับการยอมรับในวงการอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงให้กับภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนำมาซึ่งการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำ

โครงการนี้เป็นโอกาสสำคัญที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้กับผู้ที่สนใจในสายงานคณิตศาสตร์ รวมถึงการทำความเข้าใจในโอกาสทางอาชีพที่มีอยู่ในตลาดแรงงาน และช่วยให้เยาวชนไทยตัดสินใจเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ในแง่มุมที่กว้างขึ้น เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตที่ยั่งยืน