นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการ กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กล่าวว่า แบรนด์ REMY (เรมี่) เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด (PFG - Pataya Food Group) ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหารระดับโลกกว่า 46 ปี และโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ หนึ่งในโรงพยาบาลสัตว์ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อบริษัท เรมี่ เพ็ท (Remy Pet) จำกัด และได้เปิดตัวแบรนด์ REMY อาหารน้องหมาน้องแมวเพื่อสุขภาพ ในปี 2566 มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานนักโภชนาการ สัตว์เลี้ยง ด้วยคอนเซ็ปต์ "Recipe for My Love - สุขภาพดี...ที่ให้ด้วยรัก" ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดของการเลือกวัตถุดิบและสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง
แบรนด์ REMY ได้รับการตอบรับจากลูกค้าจำนวนมาก เนื่องจากจุดเด่นของสินค้า REMY ทุกสูตรที่ช่วยเสริมคุณค่าทางโภชนาการอย่างน้อย 2 ชนิด โดยคัดสรรวัตถุดิบในเกรดเดียวกับอาหารมนุษย์ (Human Grade) ไม่เติมเกลือ น้ำตาล หรือวัตถุกันเสีย มีประโยชน์ต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ได้แก่ อาหารแมว อาหารสุนัข และขนมสำหรับสัตว์ฟันแทะ โดยมีการวิจัยและพัฒนาสูตรร่วมกับนักโภชนาการตามความต้องการของสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือกลุ่มอาหารเสริมระบบย่อยอาหาร (Digestive System) รองลงมาเป็นสูตรเสริมภูมิคุ้มกัน (Immune) และสูตรเสริมข้อและกระดูก(Bone and Joint) ลูกค้าหลายรายกลับมาซื้อซ้ำเนื่องจากความพึงพอใจในรสชาติและผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยง
นางสาวสุดาทิพ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย – ตลาดสัตว์เลี้ยงปี 2568 คาดว่า ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงอยู่ที่ประมาณ 3.98 แสนตัน ขยายตัว 6% จากปีก่อน ตามจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น จำนวนสัตว์เลี้ยงของไทยยังมีแนวโน้มเติบโต โดยในปี 2568 คาดว่า สัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของมีอยู่ราว 5.38 ล้านตัว เพิ่มขึ้นราว 6% แบ่งเป็นสุนัข 3.45 ล้านตัว แมว 1.94 ล้านตัว ส่งผลให้ยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงกว่า 76% จะอยู่ในกลุ่มอาหารสุนัข แต่ในอนาคต คาดว่า สัดส่วนยอดขายอาหารแมวน่าจะเพิ่มขึ้น จากความนิยมเลี้ยงแมวที่มีมากขึ้น สะท้อนได้จาก ในช่วงปี 2564-2567 จำนวนแมวที่เลี้ยงโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 28% ต่อปี เทียบกับอัตราการเติบโตของสุนัขเลี้ยงที่ 19% ต่อปี การที่ REMY ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยความเชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อและกลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด จึงเป็นการรับประกันคุณภาพและความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี
*ขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย – ตลาดสัตว์เลี้ยงปี 2568 https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Pet-Food-IAO123-Info-FB-17-03-25.aspx
ความร่วมมือระหว่างแบรนด์ REMY และ Animal Space Hospital โดย นายสัตวแพทย์เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล หรือ "คุณหมออ้อย" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ (Exotic Pet) ได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพสำหรับสัตว์ฟันแทะ โดยมีจุดมุ่งหมายในการให้ทางเลือกใหม่แก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงกลุ่ม Exotic ซึ่งในตลาดไทยเริ่มมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ REMY ในกลุ่ม Exotic มีทั้งหมด 3 รสชาติมาด้วยคอนเซปท์ Healthy Berry Plus Vit C ได้แก่ สูตรสตรอว์เบอร์รี่ผสมโหระพาและวิตามินซี (บำรุงสายตา), สูตรแบล็กเคอร์แรนท์ผสมเมล็ดแฟลกซ์และวิตามินซี (บำรุงขนและผิวหนัง), และสูตรแครนเบอร์รี่ผสมพาร์สลีย์และวิตามินซี (ดูแลทางเดินปัสสาวะ)
นางสาวสุดาทิพ กล่าวปิดท้ายว่า กิจกรรมหลักของ REMY ยังคงมุ่งเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสายสุขภาพ (Wellness Pet Parents) ตอกย้ำความน่าเชื่อถือด้วยทีมสัตวแพทย์ในการให้ความรู้เชิงลึกผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย การทำวีดีโอ และ คอนเท้นต์สื่อถึง “Human Grade สู่ Human Touch” ที่เข้าใจคนรักสัตว์เลี้ยง มาพร้อมการสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่านวิทยุ และกิจกรรมโรดโชว์ไปยังร้านเพ็ทช็อปทั่วกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์แคมเปญใหม่ “REMY’s FRIENDs” ในงาน Pet Expo 2025 ที่จะมาถึงในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ พร้อมกับกิจกรรมลุ้น Fan Meet เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าคนรักสัตว์ นอกจากนี้ในปีนี้ REMY PET เตรียมจัดกิจกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และมีการขยายการจำหน่ายไปยังต่างประเทศเพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้าในภูมิภาคอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Exotic pet ที่คำนึงถึงความต้องการและสุขภาพของสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ REMY ยังมีเป้าหมายในการขยายตลาดในช่องทางหลักคือ กลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ และ คลินิก เกือบ 200 สาขาทั่วประเทศ รวมทั้งยังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายกลุ่ม Modern Pet shop เช่น Pet’N Me, Pet Us, Pet Club และ ร้านค้า Pet Shop กว่า 300 ร้านค้าทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงให้เติบโตตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ด้าน นายสัตวแพทย์เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษหรือ Exotic pet จากโรงพยาบาลสัตว์ Animal Space Hospital กล่าวเสริมว่า "เทรนด์ของสัตว์เลี้ยงกลุ่มสัตว์แปลก - Exotic กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 15% ของตลาดอาหารสัตว์ทั้งหมด โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ ราคาค่อนข้างสูง และมีทางเลือกจำกัด การร่วมมือกับ REMY PET ด้วย Passion ที่ต้องการพัฒนาอาหารและขนมที่เหมาะสมและดีต่อสุขภาพสำหรับกลุ่มสัตว์แปลก ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของเจ้าของสัตว์ที่มีความต้องการ มีกำลังซื้อสูง และ มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพ เพื่อเป็นการมอบความรักและความใส่ใจแก่สัตว์เลี้ยงอย่างแท้จริง ในราคาที่เข้าถึงได้ โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Exotic ซึ่งเป็นขนมสำหรับสัตว์ฟันแทะ ในรูปแบบเจลลี่จากผลเบอร์รี่และสมุนไพรธรรมชาติ มีคุณสมบัติในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้แก่สัตว์ฟันแทะ โดยเฉพาะหนูแกสบี้ที่ไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้เอง ซึ่งมีความสำคัญในการป้องกันปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น อ่อนแอ ผิวหนังขน ไม่สวย ปวดข้อ ข้อบวม มีเลือดออกจากปาก และ เหงือกครับ สินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ของ REMY PET นี้ได้มีการเสริม Vitamin C เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเพิ่มขึ้น
"REMY PET ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับความอร่อย แต่ยังใส่ใจในสุขภาพของสัตว์เลี้ยง ด้วยการพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพสูงและเหมาะสมสำหรับสัตว์ทุกชนิด สู่การเป็นแบรนด์ที่ครองใจเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั่วโลก ในปีนี้ REMY PET พร้อมที่จะขยายตลาดสู่ระดับสากล พร้อมรับมือกับเทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงอย่างต่อเนื่องทั้งประเทศไทยและทั่วโลก"
ปัจจุบัน REMY มีช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ดังนี้ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทุกสาขา กลุ่มโรงพยาบาลสัตว์ และ คลินิก รวมทั้งร้าน Pet Shop กว่า 300 ร้านค้าทั่วประเทศ และร้านค้าออนไลน์