กทพ. ประชุมคณะทำงานพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์สะพานก่อสร้างทรุดตัว พื้นที่ก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก สัญญาที่ 3
เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เวลา 09.30 น. การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ได้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งได้แต่งตั้งเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เพื่อหาสาเหตุและเร่งรัดการคืนผิวจราจรให้กับประชาชน จากกรณีอุบัติเหตุระหว่างขั้นตอน การก่อสร้างคานขวาง MLP12-09 โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอก กรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 โดยมี รองศาสตราจารย์เอนก ศิริพานิชกร ที่ปรึกษาสาขาวิศวกรรมโยธา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เป็นประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการ นาวาอากาศเอก ณัชฐ์ ลิ้มสุวรรณ์ ผู้ชำนาญการพิเศษ สภาวิศวกร เป็นกรรมการ ดร. อรรถสิทธ์ ศิริสนธิ์ ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการสาขาวิศวกรรมโครงสร้างและสะพาน วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นกรรมการ นายชาตรี ตันศิริ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและบํารุงรักษา) กทพ. เป็นกรรมการ ดร. สุกิจ ยินดีสุข วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ กรมทางหลวง เป็นกรรมการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงานดังกล่าวด้วย ณ ห้องประชุม 0307 ชั้น 3 อาคารศูนย์บริหารทางพิเศษ กทพ.
จากการประชุมในวันนี้ ยังไม่สามารถหาข้อสรุปสาเหตุการพังถล่มได้ ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการรายงานเกี่ยวกับการจัดทำข้อมูลโครงการฯ ลำดับเหตุการณ์ (Timeline) ตั้งแต่เริ่มการทำงานในวันเกิดเหตุ จนถึงเวลา เกิดเหตุ รายงานการการลงพื้นที่ของผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและเก็บข้อมูลการทดสอบโดยใช้เทคนิควิศวกรรมตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหากได้รับข้อมูลผลการทดสอบแล้วจะนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อทราบและพิจารณาข้อมูลต่อไป
ในการนี้ คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงเห็นควรให้ กทพ. แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะ ด้านวิศวกรรมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีระยะเวลาดาเนินการ 15 วัน นับจากวันที่มีการแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาการตรวจสอบการซ่อมแซม ทางพิเศษเฉลิมมหานครที่ได้รับความเสียหาย และรายงานการดำเนินงานดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบ เพื่อรายงานกระทรวงคมนาคมทราบต่อไป