CAAT เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมโดรนไทย ดัน “โดรนขนส่ง” ใช้งานจริงในเมืองภายในปี 2568

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2568

CAAT เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมโดรนไทย ดัน “โดรนขนส่ง” ใช้งานจริงในเมืองภายในปี 2568


สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เดินหน้าขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” อย่างเป็นระบบ โดยเตรียมบูรณาการทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งาน “โดรนขนส่ง” ในเขตเมืองภายในปี 2568 พร้อมปรับปรุงกฎหมายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT ได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชม ระบบนิเวศนวัตกรรมโดรน ณ พื้นที่ UAV Regulatory Sandbox วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสนามทดสอบจริงที่เปิดให้ภาคอุตสาหกรรมและภาควิจัยเข้าทดลองพัฒนาเทคโนโลยีโดรนในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของนวัตกรรม

ผลักดันภาคธุรกิจสู่การใช้จริง

หนึ่งในความคืบหน้าสำคัญคือการเปิดให้ทดสอบโดรนหลากหลายประเภท ทั้งโดรนทางวิศวกรรม โดรนเกษตร โดรนกู้ภัย และโดรนรักษาความปลอดภัย หลังจากที่ CAAT ได้ปรับข้อกฎหมายให้ครอบคลุมการใช้งานโดรนน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ส่งผลให้มีการนำเทคโนโลยีเข้าใช้จริงในหลายภาคส่วนทั้งจากในและต่างประเทศ

โดยเฉพาะ การสาธิตโดรนขนส่งยา Gryphon EX ของบริษัท เอวิลอน โรโบทิคส์ จำกัด ที่สามารถขนส่งยาในระยะทาง 2 กิโลเมตร จากโรงพยาบาลสู่สถานีสุขภาพในชุมชน จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีโดรนในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ในพื้นที่ห่างไกล ลดต้นทุนและเวลาในการเข้าถึงบริการ

แผนแม่บทเพื่อเศรษฐกิจแห่งอนาคต

CAAT ได้จับมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน จัดทำ Drone Master Plan ซึ่งเป็นแผนแม่บทที่ครอบคลุมทั้งด้านนโยบาย กฎหมาย การพัฒนาบุคลากร โครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย และสิทธิส่วนบุคคล เพื่อให้ประเทศไทยมีแผนพัฒนาที่ชัดเจน และรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมโดรนอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังเตรียมออกกฎระเบียบใหม่ ๆ เช่น การจัดประเภทโดรนตามระดับความเสี่ยง การบินนอกระยะสายตา (BVLOS) การติดตั้งระบบยืนยันตัวตนและแสดงตำแหน่ง รวมถึงการเตรียมแก้ไข พ.ร.บ. การเดินอากาศฯ เพื่อให้กฎหมายแม่บทมีความเหมาะสมกับบริบทของเทคโนโลยีในปัจจุบัน

เตรียมพร้อมเปิดตลาด “โดรนขนส่ง”

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของปี 2568 คือการผลักดันให้เกิด “การใช้งานโดรนขนส่งเชิงพาณิชย์ในเขตเมือง” ซึ่งขณะนี้ CAAT ได้เริ่มหารือร่วมกับพันธมิตร อาทิ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน), บริษัท ไปรษณีย์ไทย, บริษัท วิทยุการบินฯ และศูนย์บริหารจัดการห้วงอากาศ เพื่อวางแผนพื้นที่และแนวทางการทดสอบในเขตกรุงเทพฯ ควบคู่ไปกับการจัดทำร่างกฎหมายเฉพาะสำหรับการขนส่งและโลจิสติกส์ด้วยโดรน

สร้างระบบบริหารจราจรทางอากาศอัจฉริยะ

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญคือการพัฒนา ระบบบริหารจราจรทางอากาศสำหรับโดรน (UTM) ซึ่งได้รับการสาธิตโดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ภายในศูนย์ IOC เพื่อรองรับปริมาณโดรนที่คาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านลำในอนาคต

บทบาทเชิงรุกของ CAAT

CAAT ได้วางตำแหน่งตนเองให้เป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลอุตสาหกรรมโดรนอย่างครบวงจร ไม่เพียงแค่การออกใบอนุญาต แต่ยังรวมถึงการพัฒนามาตรฐานบุคลากร การส่งเสริมให้เกิดศูนย์ฝึกอบรม และการประสานความร่วมมือระดับนานาชาติ

การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดรนในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีใหม่ในประเทศไทย แต่ยังถือเป็นก้าวสำคัญของนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

 


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ