SKYWORTH กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์กว่า 37 ปีในอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมธุรกิจหลัก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในครัวเรือน ระบบเทคโนโลยีอัจฉริยะ การให้บริการที่สอดคล้องกับชีวิตยุคใหม่ และธุรกิจพลังงานหมุนเวียน โดยมีนวัตกรรมเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ ผ่านศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D) รวมถึงฐานการผลิตในหลายประเทศทั่วเอเชียและภูมิภาคอื่น ๆ และในปี 2567 SKYWORTH ถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 272 ใน Fortune China 500 ด้วยรายรับต่อปีเกือบ 7 หมื่นล้านหยวนจีน (ประมาณ 3.5 แสนล้านบาทไทย)
ซึ่ง SKYWORTH ยังคงแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่แข็งแกร่งและมั่นคงเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันและในปี 2563 SKYWORTH ขยายสู่ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มตัว ด้วยการก่อตั้งแบรนด์ SKYWORTH Photovoltaic (SKYWORTH PV) มุ่งพัฒนาโซลูชันพลังงานแสงอาทิตย์ครบวงจร ทั้งผลิตภัณฑ์และบริการ EPC โดยนำเสนอแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ ระบบกักเก็บพลังงาน โครงยึดติดตั้ง และบริการด้านวิศวกรรม ครอบคลุม ทั้งกลุ่มลูกค้าภาคที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ
โดย นายจิน ลิน ประธานกรรมการ บริษัท สกายเวิร์ท กรุ๊ป จำกัด กล่าวเปิดงานว่า “งานวันนี้นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ SKYWORTH PV ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดหลัก ในวิสัยทัศน์ระดับโลกของเรา เราไม่ได้มาเพียงเพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ แต่มาเพื่อสร้างความร่วมมือระยะยาว เพราะประเทศไทยมีศักยภาพสูงและมีเป้าหมายด้านความยั่งยืนที่สอดคล้องกับเรา เราเชื่อว่านี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของการร่วมมือนี้ เพราะพลังงานสะอาดไม่ใช่แค่เทรนด์ระดับโลก แต่คือความรับผิดชอบ ความจำเป็น วิสัยทัศน์ร่วมของโลกใบนี้”
นางสาวว่านเฟย ฉู ประธานเจ้าหน้าที่สารสนเทศของสกายเวิร์ท กรุ๊ป, ผู้อำนวยการและซีอีโอของสกายเวิร์ท พีวี และประธานบริษัทบริษัท สกายเวิร์ท รีนิวเอเบิ้ล เอเนอร์จี้ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดว่า “ด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปีของกลุ่ม SKYWORTH PV ซึ่งก่อตั้งในปี 2020 ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในแบรนด์พลังงานแสงอาทิตย์แบบกระจายอันดับ 2 ของประเทศจีน ด้วยกำลังการติดตั้งสะสมกว่า 25 กิกะวัตต์ และสถานีโซลาร์ที่พักอาศัยกว่า 750,000 แห่งทั่วประเทศ และยังขยายธุรกิจไปแล้วกว่า 27 ประเทศทั่วโลก
ประเทศไทยถือเป็นตลาดหลักในแผนพัฒนาพลังงานแห่งชาติ (PDP) ปี 2024 ที่มีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่รวม 43 กิกะวัตต์ภายในปี 2037 โดย 24 กิกะวัตต์จะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจังในระดับประเทศ SKYWORTH มีฐานการผลิต 3 แห่งในประเทศจีน ได้แก่ โรงงานแผงโซลาร์เซลล์ที่มีกำลังการผลิต 5GW ในกว่างโจว โรงงานผลิตอินเวอร์เตอร์ 6GW และแบตเตอรี่ 3GW ในซูโจว และฐานการผลิตเซลล์ BC/แผงโซลาร์ 10GW ในไป๋เซ่อ สำหรับในประเทศไทย เราพร้อมเดินหน้าส่งมอบโซลูชันพลังงานสะอาด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง บริการ EPC แบบครบวงจร และรูปแบบทางการเงินที่ตอบโจทย์ตลาดไทย เรามุ่งมั่นที่จะผลักดันการใช้พลังงานสะอาดในภูมิภาคนี้ และธีมงาน ‘SAIL WITH SKYWORTH – Make Every Ray of Sunshine Counts’ สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ระยะยาวของเราในการขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยพลังงานสะอาด” เธอกล่าวเสริม
ทั้งนี้ ภายในงาน ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ 2 ฉบับ ได้แก่ SKYWORTH Group กับ ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) สำนักงานใหญ่ โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันผลักดันการพัฒนาพลังงานสะอาดในประเทศไทย ซึ่ง ICBC ยังประกาศให้ SKYWORTH PV เป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์หลักอีกด้วย SKYWORTH PV ลงนามข้อตกลงเชิงกลยุทธ์ระยะยาวกับกองทุนพลังงานใหม่ พร้อมเปิดตัวกองทุนลงทุนพลังงานสะอาดมูลค่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และระบบจัดเก็บพลังงานทั่วเอเชีย รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์พลังงานหมุนเวียนคุณภาพสูงอื่นๆ เพื่อเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยคาร์บอนต่ำในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ด้วยรากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศไทย SKYWORTH PV พร้อมแล้วที่จะเร่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยโซลูชันโซลาร์คุณภาพสูงผสานกับบริการ EPC ครบวงจร งานในครั้งนี้
จึงไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง แต่คือจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของเส้นทางธุรกิจ SKYWORTH PV ในประเทศไทย สู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาดที่เติบโต ยั่งยืน และเป็นมิตรกับโลก.