นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางานตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับตัวของภาครัฐ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของบริบทแรงงานทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้การบริการของรัฐสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โปร่งใส ลดต้นทุน และลดภาระในการติดต่อราชการ จึงได้ริเริ่มโครงการ Outsourcing Service นี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการดำเนินภารกิจของกรมฯ ในส่วนที่สามารถถ่ายโอนการให้บริการได้อย่างเหมาะสม ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่เข้มงวดของภาครัฐ โดยยังคงยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล และการคุ้มครองสิทธิของแรงงานทุกคน ซึ่งระบบได้เตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งด้านกฎหมาย กระบวนงาน เทคโนโลยี และบุคลากร และพร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กันยายน 2568 พร้อมกัน ทุกที่ ทุกเวลาทั่วประเทศ
โดยที่มาของโครงการนั้นจากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งปรับเปลี่ยนภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัล เพื่อให้ภาครัฐมีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้สะดวก ประหยัด และมีคุณภาพ กรมการจัดหางานจึงได้จ้างเหมาภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการแทนในภารกิจหลัก ทั้งการรับคำขอ การแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว และผลิตใบอนุญาตทำงาน เพื่อยกระดับการบริการให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้
สำหรับหัวใจสำคัญของโครงการนี้คือการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน ได้แก่ เริ่มต้นจากการลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบ และยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม หลังจากยื่นคำขอและชำระค่าธรรมเนียมการพิจารณา ผู้ใช้บริการสามารถรอการตรวจสอบเอกสารและติดตามสถานะได้ทันที เมื่อได้รับผลการอนุมัติก็สามารถชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต และทำการนัดหมายออนไลน์เพื่อเลือกศูนย์บริการวันและเวลาที่สะดวกในการเข้ารับบริการ จากนั้นเพียงเดินทางไปที่ศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวที่เลือกไว้ เพื่อรับใบอนุญาตทำงานที่ผ่านการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องด้วยเทคโนโลยีการพิสูจน์ตัวตน อาทิ ระบบลายนิ้วมือและการสแกนม่านตา เพื่อความปลอดภัยและแม่นยำของข้อมูล เพื่อรองรับการให้บริการอย่างครอบคลุม กรมการจัดหางานกำหนดให้จัดตั้งศูนย์บริการใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว จำนวน 40 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 7 แห่ง และต่างจังหวัด 33 แห่ง รวมถึงหน่วยบริการใบอนุญาตทำงานแบบเคลื่อนที่อีก 8 หน่วย เพื่ออำนวยความสะดวกในทุกพื้นที่ ทำให้การบริการเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินโครงการ Outsourcing Service นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมการจัดหางานให้ตอบรับกับยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านแรงงานให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจ ลดภาระในการติดต่อราชการ พร้อมสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป