ประเทศไทยตอกย้ำศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนเทคโนโลยีชีวภาพ เคมี และนวัตกรรมการแพทย์และสุขภาพของเอเชีย ด้วยการเปิดฉากงาน Thailand LAB INTERNATIONAL 2025อย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยงานนี้ก้าวสู่ปีที่ 15 ของการจัดงาน พร้อมขยายขอบเขตอย่างครบวงจร โดยจัดควบคู่กับงาน BioAP INTERNATIONAL, FutureCHEM INTERNATIONAL, Health & Innovation Asia และโซนพิเศษ Food For Health Pavilion ภายใต้การจัดงานโดย บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ระหว่างวันที่ 3–5 กันยายน 2568
คุณเพ็ญนภา กัญชนะ รองเลขาธิการ ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ซึ่งเป็นประธานในพิธีเปิดในนามผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า “Thailand LAB INTERNATIONAL ถือเป็นเวทีระดับนานาชาติที่สำคัญของประเทศไทยและอาเซียนในการแสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีเครื่องมือในห้องปฏิบัติการ และการวิเคราะห์ทดสอบที่ทันสมัย ครอบคลุมตั้งแต่อุตสาหกรรมอาหาร ยา เครื่องสำอาง สิ่งแวดล้อม สุขภาพ ไปจนถึงเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูง งานนี้ไม่เพียงแค่แสดงนวัตกรรม แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งการเชื่อมโยงความร่วมมือ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และจุดประกายแนวคิดใหม่ ๆ ให้กับนักวิจัย นักศึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ประกอบการจากทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นการสร้างกำลังคนคุณภาพสูง การใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน”
ตลาดเครื่องมือวิทยาศาสตร์เติบโตสูง
คุณพงศ์ศักดิ์ ฟูศิริ นายกสมาคมการค้าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (STTA) กล่าวเสริมว่า “ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา งาน Thailand LAB INTERNATIONAL ได้พิสูจน์ความสำเร็จในการเป็นเวทีสำคัญด้านการค้าเครื่องมือและอุปกรณ์ห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีส่วนผลักดันการลงทุน การวิจัย และนวัตกรรมใหม่ ๆ ในภูมิภาค ขณะเดียวกัน งาน BioAP, FutureCHEM และ Health & Innovation Asia ได้ต่อยอดสู่อุตสาหกรรมด้านชีววิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีชีวภาพ เคมี และนวัตกรรมสุขภาพ เพื่อรองรับความต้องการของอุตสาหกรรมยุคใหม่ ทั้งนี้ ตลาดเครื่องมือวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการยังคาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ถึง 6.7% ระหว่างปี 2024–2030 จากมูลค่าประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตอย่างมหาศาลของอุตสาหกรรมนี้”
เวทีการค้าและองค์ความรู้ระดับสากล
งานในปีนี้มีผู้แสดงสินค้ากว่า 276 หน่วยงาน นำเสนอสินค้ากว่า 500 แบรนด์จาก 15 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร โดยมีสัดส่วนผู้แสดงสินค้าภายในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% พร้อมพาวิลเลียนนานาชาติจากจีน ไต้หวัน และเกาหลีใต้ สะท้อนบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการค้าและการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระดับภูมิภาค
คุณปนัดดา ก๋งม้า รองประธานสายงานธุรกิจ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เน้นย้ำว่า “ในปีนี้ ดิฉันมีความยินดีที่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางวิชาการและนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ สมาคมปัญญาประดิษฐ์ สมาคมหุ่นยนต์การแพทย์และ AI แห่งประเทศไทย และศูนย์ MIND Center ที่ช่วยกันขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการแพทย์ AI และ Digital Health รวมถึงความร่วมมือกับหน่วยงานอย่าง NIA, TED Fund และ KX ในการสนับสนุนสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ทั้งหมดนี้ทำให้งาน Thailand LAB INTERNATIONAL 2025 ไม่เพียงเป็นงานแสดงสินค้า แต่ยังเป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่ศูนย์กลางนวัตกรรมของภูมิภาคได้อย่างแท้จริง”
ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า “งานทั้งสี่งานนี้เป็นมากกว่างานแสดงสินค้า แต่ยังเป็นเวทีสร้างความร่วมมือระหว่างนักวิจัย ภาคเอกชน ภาครัฐ และผู้ประกอบการจากทั่วโลก เพื่อขับเคลื่อนองค์ความรู้และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมอาหารที่มีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Future Food & Health Innovation Hub ของภูมิภาคได้อย่างมั่นคง”
นวัตกรรมและเทรนด์อนาคต
คุณอนุชา พันธุ์พิเชฐ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ด้านห้องปฏิบัติการและสุขภาพ บริษัท วีเอ็นยู เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เปิดเผยว่า “การจัดงานในปีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตที่ก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมห้องปฏิบัติการและวิทยาศาสตร์สุขภาพในประเทศไทย งานนี้เป็นเวทีการเรียนรู้และสร้างเครือข่ายที่สำคัญ ผ่านการประชุมสัมมนากว่า 65 หัวข้อ จากผู้เชี่ยวชาญกว่า 160 ท่าน คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมงานกว่า 12,000 คน โดยจะครอบคลุมประเด็นร้อนตั้งแต่ Digitalization, Automation, AI, Health-Tech, Biotech ไปจนถึงแนวทางบรรลุเป้าหมาย Net-Zero 2050”
ก้าวสู่ความยั่งยืนด้วย "ห้องแล็บสีเขียว"
ปี 2025 ยังเป็นครั้งแรกที่งาน Thailand LAB เปิดตัว Carbon Neutrality Program สร้างต้นแบบ “ห้องแล็บสีเขียว” เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน วีเอ็นยูฯ ร่วมกับศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยนำระบบ Altotech Real-time Carbon Tracking Dashboard มาใช้เพื่อติดตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแบบเรียลไทม์ ครอบคลุมทั้งการใช้พลังงาน การเดินทาง การขนส่ง และการจัดการของเสีย โดยปริมาณคาร์บอนที่ตรวจวัดได้ทั้งหมดจะถูกชดเชยด้วยคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรอง เพื่อมุ่งสู่การเป็น งานแสดงสินค้าคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon-Neutral Exhibition) อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มสีสันด้วย TAITRA Pavilion จากไต้หวัน, TED Fund Startup Bay สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และการประกาศเปิดตัว Bio+Healthtech INTERNATIONAL 2026 ที่จะรวมอุตสาหกรรมชีววิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสุขภาพในเวทีสากล