กรณีหนังไทย 2 เรื่องที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับโรงฉาย..คือ ประชาธิปไทย กับ ฟ้าต่ำ แผ่นดินสูง..มันสะท้อนความคิดของคนในชาติที่เกี่ยวกับศิลปะของหนัง ในฐานะที่มันเป็นศิลปะแขนงที่ 7 ขณะที่ภาพรวมใหญ่ในการสะท้อนเรื่องนี้คือ เรายังไม่มีเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดที่อิสรเสรี ทั้งที่เราตะโกนบอกผู้คนทั้งโลกว่า เราเป็นประเทศที่มีระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่ก็นั่นแหละ มันคือประชาธิปไตยแบบไทยๆ พูดได้เป็นบางเรื่อง ทั้งที่บางเรื่องเป็น "ปมปัญหา" แต่ก็ไม่สามารถพูดได้ เราจึงเป็นได้แค่ประชาธิปไตย "เปลือกๆ ผิวๆ" ก่อนหนังเรื่องนี้จะฉาย กองเซ็นเซอร์ หรือที่ผมอยากจะเรียกว่าเป็น "กองผดุงศีลธรรม" จนแทบจะเอาพระมาเป็นประธานในการพิจารณาหนังแต่ละเรื่องก็ได้ทำการ "ฆาตกรรม" หนังไปบางส่วนแล้ว ด้วยการอ้างว่า ไม่เหมาะกับศีลธรรมและระบอบการปกครอง นั่นเท่ากับว่ากองเซ็นเซอร์ 7-8 คนมีอำนาจเหนือศิลปะของหนัง ถ้าจะพูดให้มันสยดสยองหน่อยคือ มีคนคลอดลูกออกมา แล้วเอาไปให้กองเซ็นเซอร์ดูว่า ร่างกายของเด็กมันมีอะไรงอกเงยออกมาผิดสัดส่วนของความเป็นมนุษย์ แล้วก็ใช้มีดหั่นทิ้งไปซะ.. โดยที่แม่ของเด็กซึ่งเป็นผู้คลอด นั่งทำตาปริบๆ.. ในโลกของศิลปะ ไม่มีอะไรโหดร้ายเท่ากับ การหยุดยั้งความคิดอิสระของศิลปิน เมื่อตัดแขนขาเด็กแล้ว ก็มาถึงมาตรการการเผยแพร่ที่ไม่ยอมให้เผยแพร่อย่าง กว้างขวาง แต่ประเด็นนี้จะมาตกอยู่ที่เจ้าของโรงหนัง เนื้อหาของหนังที่เป็นที่วิพากษ์ วิจารณ์ว่า หมิ่นเหม่ต่อการปกครอง..เจ้าของโรง ก็จะออกอาการ กล้าๆ กลัวๆ ประชาธิปไทย ของเป็นเอก จึงถูกเตะเป็นลูกฟุตบอล เดิมทีจะให้ฉายที่สยามพารากอน ไปๆ มาๆ โยนไปให้โรงเอสพลานาด รัชดา ทั้งที่หนังมีคนดูเต็มทุกรอบ แทนที่จะพิจารณาเพิ่มโรงฉาย รอบฉาย คือเหมือนกับว่า ถ้าหนังเรื่องนี้เผยแพร่ออกไปในวงกว้าง ผู้คนจะกลายเป็นกบฏ ออกมาล้มล้างการปกครอง..ทั้งที่เนื้อหาหลักๆ ของหนังคือ ต้องการสื่อให้คนรู้ถึงปัญหารากเหง้าของประชาธิปไตยของไทยที่มันไม่สามารถพัฒนาไปไหน อีกเรื่อง "ฟ้าต่ำ แผ่นดินสูง" อนุญาตให้ฉายแต่คนสร้างต้องเช่าโรงหนังเอง ขายตั๋วเอง..เราจึงเห็นคุณเบญจพลผู้กำกับ ไปนั่งขายตั๋วหนังของตัวเองอยู่หน้าโรงหนังที่เชียงใหม่...ถ้าคนดูไม่เยอะ ก็เจ๊ง ต้องหาเงินค่าเช่ามาจ่ายเจ้าของโรงหนัง นี่มันเป็นเรื่อง เศร้าสุดๆ ของวงการหนังไทย..จริงอยู่ มันเป็นหนังอินดี้ ไม่อาจทำเงินรายได้ แต่มันก็สะท้อนแนวคิดของธุรกิจเจ้าของโรงหนังในยุคเกาะกระแส... จากที่ดูเหมือนจะไม่เซ็นเซอร์ แต่ก็ถูกเซ็นเซอร์จากระบบธุรกิจ อันหลังนี่..ร้ายการกาจกว่ากองเซ็นเซอร์หลายเท่า!!!