เป็นนางเอกป้ายแดงแกะกล่องอีกหนึ่งคนของวิกช่อง 3...
สำหรับ "น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์" หรือที่ตอนนี้ใครหลายๆ คนรู้จักเธอในนาม "รจนาไฉน" จากละครเรื่อง "มัจจุราชสีน้ำผึ้ง" ซึ่งในละครสาวน้ำตาลต้องถูกพระเอกของเรื่องอย่าง "เคน-ธีรเดช" ทำร้ายจิตใจสารพัดแถมยังเจอนางร้ายกลั่นแกล้งอีกตลอดทั้งเรื่องเรียกน้ำตาและคะแนนความสงสารจากคนดูไปได้ไม่น้อย ฉบับนี้ "โชะเด๊ะ" เลยขอมาสัมผัสกับตัวตนของนางเอกหน้าหวานคนนี้กันหน่อยว่าบทบาทในละครกับชีวิตจริงนั้นเหมือนหรือแตกต่างกันขนาดไหน
"ต่างกันมากค่ะ เพราะตัวละครก็จะเป็นสาวหวาน ก็จะต่างจากตัวตาล เพราะตาลเป็นคนลุยๆ ตัวละครก็จะร้องไห้เยอะ เขาจะโดนกระทำเยอะ จาก ครอบครัว จากพระเอก จากอะไรหลายๆ อย่าง เลย ทำให้เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างจะคิดมาก แล้วเก็บทุกอย่างไปคิด ก็จะระบายออกด้วยการร้องไห้ และเป็นอะไรที่ยากมากกับฉากร้องไห้ เพราะส่วนตัวแล้ว ตาลเป็นคนที่ค่อนข้างจะร้องไห้ยาก เวลาก่อนเข้าฉาก เราก็ต้องมาคิดว่าตัวละครเค้าผ่านอะไรมา ก็ต้องลืมทุกอย่างให้หมด พอเข้าฉากแล้วเราโดนนักแสดงท่านอื่นๆ เค้าส่งอารมณ์มา เราก็รู้สึกเสียใจ คืออินไปกับตัวละคร มันก็ร้องไห้ออกมาได้"
"การแสดงมันเป็นอะไรที่ยาก ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาหรือละคร ยิ่งละครเป็นอะไรที่ค่อนข้างที่จะ ไกลตัวเรา แล้วก็ได้เจอกับนักแสดงหลายท่านเลย ที่เค้ามากฝีมือกันทั้งนั้น ก็ทั้งกดดัน ตื่นเต้น ปนกันไปหมดเลย วันแรกเกร็งมากที่เจอกับพี่เคน-ธีรเดช เค้าเป็นพระเอกในดวงใจตาล เล่นเป็นครูกุ๊ก เราก็ดูมาตลอด เราไม่คิดไม่ฝันว่าวันหนึ่งเราจะมาเล่นละคร กับพระเอกในดวงใจเรา พอมาเล่นแล้วเราก็รู้ว่าพี่เค้าเป็นคนน่ารัก เป็นพระเอกทั้งในจอ นอกจอ ดูแลเรา มีอะไรที่ไม่เข้าใจก็ถามพี่เค้าได้ เค้าก็จะมาพูดมาคุยให้หายเกร็ง เราก็ขอบคุณพี่เค้ามากค่ะ"
ด้วยความที่เป็นนางเอกมือใหม่เพิ่งจะแกะกล่อง แต่ต้องมาเจอนักแสดงมาก ฝีมือขั้นเทพหลายๆ คน งานนี้เลยทำให้สาวหน้าหวาน อย่าง "น้ำตาล" ต้องเตรียมตัวฟิตเรียนแอ็กติ้งอย่างหนัก
"ก็ต้องเข้าคอร์สเรียนการแสดงค่ะ เพราะว่าตาลไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อนเลย เราก็จะมีแค่โฆษณา แล้วเล่นโฆษณาก็ไม่เคยไปเรียนการแสดง แต่พอมารู้ว่าเราจะได้เล่นละคร ทางบรอดคาซท์เค้า ก็จัดคอร์สเรียนการแสดงให้เรา ก็ได้วิชามาจากอาจารย์หลายๆ ท่าน รวมถึงพี่ๆ ในกองละครด้วย เค้าก็จะช่วยมาแนะนำ ผู้กำกับ ทีมงาน เค้าก็มี ส่วน ช่วยให้เราเข้าใจในบทบาท เข้าใจตัวละครรจนา ไฉนมากขึ้น ก็เลยทำให้เราผ่านการแสดงได้"
เล่นละครเรื่องแรกก็เจอของยากมีครบทุก อารมณ์ทั้งร้องไห้ และฉากสำคัญของบทเลิฟซีน ของพระเอกนางเอกที่ขยี้ใจคนดู แต่ก็ไม่ทำให้นางเอกน้องใหม่นั้นเกิดปัญหา เพราะงานนี้ได้พระเอก "เคน-ธีรเดช" เป็นพี่เลี้ยงคอยสอน...
"เยอะเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าเราต้องเข้าฉากด้วยกันบ่อย มีตบจูบ มีหลายอย่าง ดังนั้น ถ้าเรามาเกร็งมันก็จะยาก พี่เค้าก็จะแนะนำ บางทีเป็นซีนอารมณ์ ต้องกระชากกัน ต้องร้องไห้ บางที ตาลก็จะกังวลกลัวว่าเราจะร้องไห้ไม่ได้ พี่เค้าก็จะบอกเราว่า อย่าเครียดในเรื่องนี้ เดี๋ยวปล่อยไปตาม ซีนอารมณ์ เวลาพูดคุยส่งอารมณ์กัน เราก็จะร้องไห้ ได้เอง ต้องบอกว่าดูละครเรื่องนี้ได้ครบทุกรส มีทั้งร้องไห้ ดราม่า บู๊ ตลกก็ยังมี อย่างแก๊งพี่พุดเดิ้ล พี่มิค แม่ป่อง อย่าให้เค้ารวมตัวกันเลย ตาลก็จะหลุดขำตลอด เค้าชอบมีมุกสดๆ มาเล่น บางทีก็หลุดหัวเราะไปถ้าพี่เค้าไม่ได้เตี๊ยมเรา"
ในเรื่องฟีดแบ็กจากละคร "สาวน้ำตาล" เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับฟังทั้งด้านดีด้านลบ...
"ก่อนหน้านี้ก็เตรียมตัวไว้ก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะมาทางด้านดี หรือว่าด้านไม่ดี ด้านดีก็คงเป็นส่วน ในเรื่องของกำลังใจให้เรามีกำลังใจในการทำงาน ต่อไป ส่วนในเรื่องของคำติชมหรืออะไรต่างๆ เราก็ต้องเก็บมาใช้ปรับปรุง เพราะว่าผู้ชมก็เหมือนกระจก ที่สะท้อนตัวนักแสดง ว่าเราแสดงเป็นยังไง แล้วละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก คงเป็นไปไม่ได้ว่าจะทำให้ ถูกใจคนดูร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็คงต้องขอกำลังใจค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรก และก็ค่อนข้างที่จะหนัก ไกลตัวเรามาก ก็ถือว่าทำเต็มที่ เต็มความสามารถของเราแล้ว ผลจะออกมาเป็นยังไง ตาลก็น้อมยอมรับในข้อนี้"
มีโอกาสมาเล่นละครเรื่องแรกก็โดนเปิด บริสุทธิ์พิสูจน์ฝีมือให้เป็นนางเอกตบจูบไปแล้ว...
"ก็มีค่ะ เพราะละครเรื่องนี้ก็ออกแนวตบจูบเลยแหละ แบบอารมณ์รุนแรง พระเอกก็ทำไปด้วยความแค้นบ้าง ทั้งรักทั้งแค้น แล้วนางเอกเรื่องนี้ก็ไปพัวพันกับผู้ชายหลายคนมาก ที่เป็นทั้งคนรักเก่า คนรักใหม่ ทั้งเพื่อนพระเอก เค้าก็จะมาชอบเรา และพระเอกเค้าก็จะมาลงที่เรา แล้ว เค้าก็จะเกลียดผู้หญิงที่เห็นแก่เงิน เพราะเค้ามีปมอดีตตรงนั้น แล้วเราก็มาทางด้านนี้ด้วย คือทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว เค้าก็จะเกลียดเรา แต่ ในเรื่องเลิฟซีนออกในแนวน่ารักกุ๊กกิ๊กบ้างก็มี ไม่ ใช่จะดุเดือดอะไรขนาดนั้น"
เห็นมาเป็นนางเอกหน้าหวานโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงเล่นละครแบบนี้ แต่ความฝันจริงๆ ของ "สาวน้ำตาล" นั้นกลับอยากที่จะเป็นแม่พิมพ์ของชาติให้ความรู้กับเด็กๆ...
"ความฝันของตาลก็คือ การเป็นครูที่ชอบครูก็เพราะว่าเราอยากมีส่วนที่จะพัฒนาเด็ก ให้ความรู้เด็กเพื่อที่เค้าจะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า ให้เค้ามีอนาคตที่ดี สำหรับโอกาสที่เข้ามาตรงนี้ มันไม่ได้เข้ามาหาทุกคน ดังนั้น เมื่อโอกาส มาแล้ว ตาลก็อยากจะคว้าไว้ และลองทำให้ดีที่สุด ส่วนในเรื่องของความฝัน ตาลว่าเมื่อตาลทำโอกาสสำเร็จแล้ว มันคงไม่ยากที่ตาลจะไปตามฝันอีก เพราะว่าการเป็นครูยังไงก็เป็นได้ ไม่ใช่ว่าอยู่ตรงนี้แล้วเราจะเป็นไม่ได้ เราอาจจะสอนพิเศษในอนาคตก็ได้"
เรื่องแรกก็เจอยาแรงได้บทดราม่า ชีวิต มีแต่น้ำตา แต่งานท้าทายข้างหน้าสาวหน้าหวานคนนี้ ขอลุยบทบู๊กับเขาบ้าง...
"ตาลก็อยากเล่นอะไรที่มันบู๊ล้างผลาญ ต่อสู้ เพราะว่าบู๊ถึงแม้ว่ามันจะมีคิว มีบล็อกกิ้งเยอะ แต่ตาลรู้สึกว่ามันได้ปลดปล่อย แต่ร้องไห้เป็นอะไรที่ยาก บางคนเล่นไม่ได้ก็เครียด ตาลเองก็เครียด เราร้องไห้น้ำตาไหลได้ แต่คนดูจะเชื่อมั้ยว่าเรารู้สึกอะไรอยู่ ร้องไห้มันก็มีหลายระดับ แต่เตะต่อย มันตรงๆ เลย คือมันสนุกค่ะ (ยิ้ม)"
จากบทดราม่าที่ "น้ำตาล" แสดงผ่านละคร "มัจจุราชสีน้ำผึ้ง" มันช่างส่งเธอเหลือเกินให้ขึ้นแท่นนางเอกตบจูบหน้าใหม่ของวิก 3..โชะเด๊ะ!!!