เมื่อนักร้องขวัญใจวัยโจ๋อย่าง "เสก โลโซ" หรือ "เสกสรร สุขพิมาย" มีภาพอัพยาลงทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งความผิดพลาดในวันวาน ได้กลายเป็นที่มาของการรณรงค์โครงการชวนน้องเลิกยา เพื่อคืนความดีให้กับสังคม "โชะเด๊ะ" ฉบับนี้ จึงไม่พลาดที่จะชวนร็อกเกอร์หนุ่ม มาจับเข่าคุยถึงเรื่องดังกล่าว
"ตั้งแต่มีโครงการนี้ มีฟีดแบ็กเยอะเลย แอด เฟซบุ๊กมาเยอะ แสดงเจตจำนงอยากร่วมโครงการ นี้ จะบอกว่าโครงการนี้ไม่ใช่ผมทำคนเดียว เดี๋ยวจะไม่เชื่อถือ เมื่อวานได้คุยกับประธานมูลนิธิ Miracle of Life ของทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตน์ ท่านก็ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ด้วย น้องๆ ก็สนใจ เยอะมาก ถือว่าพี่ทำผิดไปแล้ว ไปติดยา พอพี่เลิก ได้ก็มาบอกทุกคน ยาเสพติดเลิกได้นะมามีชีวิตใหม่ พี่จัดมีตติ้งเดือนละครั้งเชิญทุกคนมา ใครที่ตรวจเจอและพร้อมสมัครใจพี่จะส่งไปสถาบันธัญญารักษ์ สถาบันรับตัวไปรักษาแล้วก็มามีตติ้งที่เรียกว่าการ เข้ากลุ่ม ซึ่งตัวพี่เองก็ทำการเข้ากลุ่มพี่เพ็ญคนที่ดูแลจะคอยสอบถามว่าผมเป็นไงบ้าง 4-5 เดือนที่ผ่านไปเป็นไงบ้าง นี่คือสิ่งที่ผมทำมาตลอด ปีกว่าที่ผ่านมา เป็นการบำบัดวิธีการมีตติ้ง ผมโชคดี หน่อยคือผมเป็นคนที่มีชื่อเสียง การเข้ากลุ่มของผมเป็นการเข้าไปเจอกับแพทย์และพยาบาลและจะสอบถามผม คือท่านจะมีจิตวิทยา ตอนนี้ผมแต่งตัวแบบนี้ พูดจาแบบนี้เลิกยารึยัง พูดง่ายๆ ถ้าคนติดยาคงไม่สามารถมานั่งแบบนี้ได้ ซึ่งตอนนี้มีความจริงใจแน่วแน่อยากจะช่วยให้คนเลิกยา มุ่งหวังดีต่อประเทศชาติ"
+ แม้เพิ่งเริ่มแต่ก็มีทีมงานมาช่วยแบ่งเบา..
"มีโลโซเอฟซี กานต์ ภรรยาผมเป็นคนช่วยดูแลต่างๆ ให้ คอยช่วยดูว่ามีคนสมัครมาเท่า ไหร่แล้ว ส่งไปสถาบันธัญญารักษ์ไปเรื่อยโดยที่ไม่มีคดี เพราะถ้าคนที่ติดยาสมัครใจที่จะเลิก ท่าน จะไม่มีคดีเพราะว่าเป็นผู้ป่วยไม่ใช่ผู้ค้า เราจะพาท่านไปรักษาเหมือนท่านเป็นไข้เราพาไปหาหมอ หลังจากนั้น มีการติดตามว่าเป็นไงบ้างหนึ่งปี การ ทำพวกนี้ที่เรียกว่าแมททริกโปรแกรม"
"ตอนนี้บอกตรงๆ และขอยืนยันว่าผมคลีนตัวเองล้านเปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีดื่มบ้าง ขอเวลาอีก สองเดือนจะกลับมาสลิมอัพเหมือนเดิม (หัวเราะ) ตอนนี้สภาพจิตใจและร่างกายเต็มพร้อม 90 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ผมได้รับการบำบัดแล้ว ชีวิตมันเปลี่ยนไป มันดีตรงที่เราไม่หวาดระแวง ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ผมเองก็ไม่ได้กลัวอะไรอยู่แล้ว แต่หลังจากที่เสพยามันจะมีการหวาดระแวง มันมีอาการหลอนมีคนตามตลอดเวลา มีคนจะมาทำร้ายเรา ผมก็ระวังตัวมากตอนนั้น ผมเคยผ่านมันมาแล้วและหลงผิดคิดว่าเอาอยู่สุดท้ายเอา ไม่อยู่ ชีวิตเกือบจะพังหมด แต่ยังถือว่าโชคดีมีคนที่รักผมและผมรักเค้าต่างมาให้กำลังใจและช่วยกันช่วยผมออกมาจากตรงนั้น"
+ เว้นวรรคการร้องเพลงไปนาน แต่ต้นสังกัดเก่ายังให้โอกาส..
"ตอนนี้อยู่แกรมมี่ ยังไม่ได้เซ็นสัญญา แต่เรามีสัญญาลูกผู้ชายด้วยกัน เข้าไปคุยมารอบหนึ่ง แล้ว ตอนนี้ติดต่อเรื่อยๆ เราคุยกับพี่ป้อได้คุยกันตลอดว่ายังไง เค้ายินดีต้อนรับกลับบ้านเสมอ ผมพร้อมเมื่อไหร่ก็กลับไป ซึ่งผมก็พร้อม เดี๋ยวผมจะไปเข้าห้องอัดกับทางแกรมมี่ เดี๋ยวต้องมีเซ็นสัญญาทั้งที่ผมพอใจและเค้าพอใจด้วย มองไว้ว่าจะเซ็นเหมือนเดิมสองปี แต่อันนั้นไม่สำคัญหรอก ถ้าเราทะเลาะกันเมื่อไหร่ สัญญามันฉีกทิ้งได้ทันที พี่บูลย์ พี่เล็ก พี่อ๊อด เป็นคนที่น่ารักมาก พูดง่ายๆ ถ้าเสกไม่แฮปปี้เมื่อไหร่เราเลิกทำ เราทำกันด้วยความแฮปปี้ ผมเจออุปสรรคต่างๆ พี่เค้ายังให้ผมเข้าไปทำงานผมก็ดีใจ"
"อัลบั้มนี้ผมใช้เวลาเดือนครึ่งก็เสร็จแล้ว ตั้งใจจะทำเป็นแบบเรียลิตี้ คุยกับทางเคเบิลทีวี ผมอยากให้วงการเพลงมีอะไรใหม่ๆ อยากให้มีเรียลิตี้แบบว่ามีเราอยู่ในห้องอัด อัดเพลงแล้วก็เอาไปโพสต์ลงยูทูป เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ก เป็นสื่อ ที่แรงมากในปัจจุบันเราสามารถสื่อสารกันได้ผ่าน seklosoofficial@gmail.com เป็นเมลของพี่เองแล้วก็มีแฟนเพจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถติดตามพี่ได้ตลอด จะได้ชมกันสดๆ การทำงานครั้งนี้"
"สำหรับเสียงตอบรับ คิดว่าดังกว่าเดิมอีกนะ แล้วเขารู้สึกเห็นใจ จะบอกให้นะผมว่าคนไทยเราจริงๆ รักกันนะ เวลาเราล้มให้กำลังใจกัน ทุกคนพลาดทำผิดได้และการ ซ้ำเติมกันมันไม่ใช่วิธีถูกต้องเพราะทุกคนไม่ได้อยากที่จะทำผิด ผมเองทำผิดไปเราก็แก้ไขทำให้มันดีขึ้น ผมคิดว่าน่าจะดี เพราะเวลาที่เราไป เล่นคอนเสิร์ตทุกคนมาให้กำลังใจ ผมเองไม่ใช่คนที่เลวร้าย อะไรคนเราเกิดมามันต้องมีมุมที่ดีบ้างไม่ดีบ้าง เราก็เลือกดูและเห็นในสิ่งที่ดีของเขาเท่านั้นก็มีความสุขแล้ว"
"ต่อไปถ้าใครอยากให้ผมไปเล่นคอนเสิร์ตให้เกี่ยวกับการต่อต้านยาเสพติดที่ผมเพิ่งไปทำมาเมื่อเร็วๆ นี้เองให้กับผู้ว่าฯ ที่ขอนแก่น ผมก็ไปเล่นให้ฟรีๆ ใครอยาก จัดเชิญผมไปผมก็ยินดีตลอด ยินดีมาก ให้ไปบรรยาย ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ถ้าผมว่างผมก็จะไป ถือว่าช่วยๆ กัน การที่ผมเลิกยาได้ครั้งนี้ผมคิดว่ามันอยู่ ที่ใจแล้วทูลกระหม่อมฟ้าหญิงอุบลรัตน์ เป็นกำลังใจ ท่านได้มอบดอกไม้มาให้ผม รวมถึงพี่ๆ น้องๆ แฟนเพลงประชาชนคนไทยให้กำลังใจผม แฟนเพลงผมนี่รักผมมาก แต่ไม่ใช่พวกเค้ารักผมมากผมจะทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมเองก็รับผิดชอบต่อสังคม ผมต้องปรับปรุงแก้ไขตลอดเวลา"
"สุดท้ายผมขอฝากคอนเสิร์ตผู้กล้า ร็อกแอนด์โรลคนไทยไทยแลนด์ คอนเสิร์ตนี้จัดให้กับทหาร ตำรวจ ผู้ที่รับใช้ชาติที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รายได้ทั้งหมดจากการขายบัตรและประมูลของต่างๆ จะมอบให้ทั้งหมดเลยให้ผ่านทางมูลนิธิ Miracle of Life ผมจะเชิญผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ช่วยเหลือผมตอนที่ผมป่วย พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นคนที่ผมรักและเคารพมาก ถ้าผมไม่ได้ท่านบอก ตรงๆ ผมก็คงตาย ท่านช่วยผมเยอะมาก รวมถึงนายแพทย์คนอื่นๆ ด้วย"
นี่แหละชีวิตฟ้าหลังฝนของ "เสก โลโซ" ..โชะเด๊ะ!!!