กรมทางหลวงชนบท ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง นำรถบรรทุกเข้าพื้นที่ที่มีน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนติดตามสถานการณ์อุทกภัย และสำรวจซ่อมแซมถนนในบางสายทาง เพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้อย่างสะดวกปลอดภัย
(14 ต.ค. 68) นายพิชิต หุ่นศิริ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบันขอให้ประชาชนในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ระมัดระวังในการเดินทางซึ่งอาจเกิดอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมจนทำให้มีน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ยังคงจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนบนโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหน่วยงานในสังกัดได้ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งการสนับสนุนกำลังคน ยานพาหนะ การบริหารจัดการเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน รวมไปถึงการส่งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ประสบภัย การตรวจสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า การติดตั้งป้ายเตือนเกี่ยวกับอันตรายจากไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยที่จำเป็นบริเวณสายทางที่เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 16 (กาฬสินธุ์) ได้เร่งดำเนินการซ่อมแซมถนนทางหลวงชนบทสาย กส.4001 อำเภอนาคู เชื่อมอำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ไหล่ทางชำรุดทรุดตัว ซึ่งขณะนี้ได้เดินหน้าซ่อมแซมเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านได้ก่อน ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงข่ายทางหลวงชนบทยังได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 9 จังหวัด ประกอบด้วย (อุตรดิตถ์, แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, พิษณุโลก, สุโขทัย, พิจิตร, พระนครศรีอยุธยา, นครสวรรค์, อุบลราชธานี) รวม 32 สายทาง แบ่งเป็น สัญจรผ่านได้ 15 สายทาง และไม่สามารถสัญจรผ่านได้ 17 สายทาง โดยสายทางที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทช. ได้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายบอกระดับน้ำ และปักเสาขาวแดงตามแนวเขตทางเรียบร้อยแล้ว หากระดับน้ำลดลงจะเร่งดำเนินการประเมินสถานการณ์และเร่งเข้าซ่อมแซมเบื้องต้นโดยเร็ว หากประชาชนต้องการแจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบททุกจังหวัด หรือสายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146