กำลังดูรายการ Divas Cafe รายการยอดฮิต เจริญสมอง ประเทืองปัญญา ของ Voice TV สัมภาษณ์ เป็นเอก รัตนเรือง..กับหนังสารคดีล่าสุดของเขา ที่คิดว่าผู้คนคงตั้งหน้า ตั้งตารอ ว่าจะออกมาในรูปแบบใด เพราะแค่ชื่อหนัง "ประชาธิปไทย" ก็ชวนให้ปวดกบาลแต่น่าค้นหา..เดี๋ยวหนังฉายจะได้เอามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแน่นอน..ใครที่ดูสัมภาษณ์เป็นเอกไม่ทัน ให้เข้าไปที่เว็บไซต์วอยซ์ทีวี ซึ่งไม่เพียงเป็นแค่เว็บไซต์นะครับ เป็นทีวีอินเตอร์เน็ตออนไลน์กันตลอด 24 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว...
อันเนื่องมาจาก วอยซ์ทีวีนี่แหละ จึงเป็นที่มาของหัวข้อที่จั่วไว้...ผมเองคลุกคลี อยู่กับทีวีมานาน โดยเฉพาะกับเคเบิลอย่าง Nation TV ผมอยู่ในยุคบุกเบิกรุ่นแรก ที่อยู่ช่อง 8 ยูบีซี ช่วงนั้น เนชั่นพ่ายแพ้เกมธุรกิจจากกรณี ITV จึงหันมาปักหลักกับช่องเคเบิล เป็นเจ้าแรกที่เสนอตัวเป็นช่องข่าว 24 ชั่วโมง ซึ่งว่าไปแล้วในแง่ธุรกิจ ก็สุ่มเสี่ยง พอสมควร เพราะกระแสเคเบิลยังเข้าไม่ถึงกระแสอารมณ์สังคมเหมือนฟรีทีวี แต่ด้วยประสบการณ์ทีวีเชี่ยวกรากของคุณสุทธิชัย หยุ่น เนชั่นทีวีคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น ผมยอมรับว่า นี่คือประสบการณ์ในการทำงานทีวีเต็มตัวครั้งแรกของผมหลังจากย้ายมาจากฝั่งหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ต้องบอกว่า สนุก มันส์ ทำงานกันแบบลืมตาย หลายข่าวที่เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่การตัดต่อ การลงเสียง การใส่ภาพ ข่าวบางชิ้นตัดต่อกันถึงเช้า ก่อนจะยัดเข้าห้องออกอากาศกันสดๆ ความประทับใจไม่รู้ลืมมาจนถึงวันนี้ของผมคือ งานข่าวทีวีชิ้นแรกของผมได้รับการออกอากาศเป็นชิ้นแรกในวันที่เปิดสถานีอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ บินนำนักข่าวมาลงบนลานจอดชั้นบนสุดชั้นที่ 44 ของตึกเนชั่น วันนั้นบรรยากาศคึกคักมาก คุณชวน หลีกภัย มาเป็นประธานในการเปิด แขกเหรื่อชั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจคลาคล่ำ
ข่าวของผมชิ้นนั้น คือ การปิดตัวของหนังสือพิมพ์ "บ้านเมือง" เปิดหน้าตัวเองบนสะพานลอยหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์บ้านเมือง...ตื่นเต้นโคตรๆ...ข่าวชิ้นนั้น ผมกับคนตัดต่อ ใช้เวลากันทั้งคืน มาตัดต่อกันตอนเช้า 7 โมง ผมไม่รู้ว่า ข่าวของใครจะได้ออกเป็นชิ้นแรก ตัดต่อเสร็จตอน 10 โมง เที่ยงเปิดสถานี
คุณกนกกับคุณสรยุทธ สองคู่หู เป็นคนอ่านข่าว ก่อนที่ทั้งคู่จะกลายมาเป็น "ต้นแบบ" ของการ "เล่าข่าว" ที่เต็มไปด้วยรสชาติ สีสัน ให้ช่องฟรีทีวี เอาไปต่อยอดกันจนกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่แต่ละช่องจะขาดไม่ได้...แต่จะว่าไป ก็ไม่ใช่งานที่ทำกันง่ายๆ...เพราะคนทำต้องมีทักษะ มีลูกเล่น ซึ่งมาถึงนาทีนี้ เบอร์หนึ่ง ก็ยังไม่มีใครแซงหน้า ท่านสรยุทธ จนกลายเป็นเสี่ยร้อยล้านจากการเล่าข่าว
ที่เล่ามาทั้งหมด เพื่อที่จะบอกว่า พัฒนาการของเคเบิลทีวี มีมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆ กับการแก้กฎหมายอนุญาตให้มีการโฆษณาได้ ซึ่งจุดนี้มีผลทำให้การแข่งขันในเชิงการตลาดและธุรกิจเข้มข้น และทำให้มีเคเบิลช่องอื่นๆ เกิดขึ้นมามากมาย... จนยุคปัจจุบัน เลือกช่องกันไม่ถูก แต่คอนเซปต์ของช่อง ก็จะถูกแบ่งออกไปตามเซ็กชั่นของการตลาดและกลุ่มทาร์เก็ตคนดูชัดเจนยิ่งขึ้น และแน่นอนแต่ละช่องล้วนเกี่ยวข้องกับ "การเมือง" อย่างแยกไม่ออก อย่ามาบอกผมนะครับว่า ช่องของตัวเองไม่เกี่ยวกับการเมือง เพราะสงครามสีเหลืองแดง ได้แบ่งแยกคนดูออกอย่างชัดเจน อยากดูความเคลื่อนไหวของราก หญ้ากดไปที่ Asia Update ไม่ผิดหวัง อยากดูการด่ารัฐบาล กดไปที่ ASTV หรือ Blue Sky หรือ TT News ก็ไม่ผิดหวัง คืออยากดูอะไรกดหากันได้ทุกสาขา อยากดูศาสนากดไปที่ช่องธรรมกาย กีฬา นี่ยิ่งไม่ต้องห่วง กดไปที่สยามกีฬา หรือ CTH หรือ ช่องแกรมมี่ อาร์เอส..ที่ลงมาเล่นกับช่องกีฬาเต็มตัว เรียกว่าทำเอาคอกีฬาปวดกบาล เพราะไม่รู้จะซื้อกล่องรับสัญญาณของค่ายไหนดี
ทั้งหมดของเคเบิลทีวีและดาวเทียม มันมีความเป็น "ชนชั้น" หรือทาร์เก็ตของคนดูแบ่งแยกชัดเจน
เพราะฉะนั้น การแข่งขันของเคเบิลและดาวเทียม มาถึงนาทีนี้ จึงอยู่ที่ "คุณภาพ" ที่แตกต่างของรายการ เสาร์นี้ เนื้อที่หมด ยกยอดไปฉบับหน้า จะมาว่ากันถึงว่า ช่องไหน "คุณภาพ" คับแก้ว ทั้งการดีไซน์กราฟิก การออกแบบฉาก การนำเสนอเนื้อหาสาระของ ข่าว รายการ และตัวพิธีกรดำเนินรายการ
และที่สำคัญ...การมีประชาธิปไตยที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจให้เคเบิลมีอนาคต รองรับโลกาภิวัตน์ยุคประชาคมอาเซียนที่กำลังจะมาถึง...