"พิพัฒน์” ลุยภูเก็ต แก้รถติด-เชื่อมสนามบิน-ยกระดับขนส่งสาธารณะ เดินหน้า “ทำจริง เห็นผล” ยกระดับคุณภาพชีวิตคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยว วางรากฐานท่องเที่ยวอันดามันระยะยาว
วันที่ 20 ตุลาคม 2568 - นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่ โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานในสังกัด อาทิ กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่ พร้อมด้วยภาคเอกชนในจังหวัดภูเก็ต อาทิ องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันวางแนวทางขับเคลื่อนการพัฒนาระบบคมนาคมทั้งจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม ณ ห้องประชุม ท่าอากาศยานภูเก็ต
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ แต่ระบบขนส่งสาธารณะและเส้นทางจราจรยังไม่สมบูรณ์เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาหลักอยู่ที่โครงข่ายถนนสายหลักซึ่งมีทางเข้าเมืองเพียงสายเดียว คือทางหลวงหมายเลข 402 ที่มีจุดตัดทางแยกขนาดใหญ่ถึง 13 จุด ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะช่วงสนามบินถึงตัวเมืองที่ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง
รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว และวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน กระทรวงคมนาคมจึงลงมือทันทีในการวางแผนพัฒนาภูเก็ตทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรมและเกิดประโยชน์กับประชาชนโดยตรง
นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางระยะเร่งด่วน กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งปรับปรุงจุดกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 402 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของการจราจร พร้อมเดินหน้าโครงการพัฒนาทางเลี่ยงเมืองหมายเลข 4027 ให้เป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าสู่ตัวเมือง โดยมี 3 โครงการสำคัญ คือ (1) ขยายช่องจราจรที่เหลืออยู่ให้ครบ 4 ช่อง ดำเนินการปี 2567–2569 (2) พัฒนาเส้นทางเชื่อมถนนแนวใหม่เข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ตโดยตรง เพื่อแยกกระแสจราจรระหว่างผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป เริ่มดำเนินการปี 2568 แล้วเสร็จปี 2571 และ (3) ก่อสร้างถนนสายบ้านป่าคลอก–บ้านบางคู เพื่อเป็นเส้นทางใหม่จากพื้นที่ตอนเหนือเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต
เราต้องการให้คนภูเก็ตเห็นผลจริงในระยะสั้น เดินทางสะดวกขึ้น ปลอดภัยขึ้น นักท่องเที่ยวใช้เวลาน้อยลง ขณะเดียวกันเราก็กำลังวางรากฐานระยะยาวเพื่ออนาคตของจังหวัดนี้
สำหรับแนวทางระยะยาว กระทรวงคมนาคมจะบูรณาการการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งทางถนน ทางราง และทางอากาศ โดยมอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งรัดพัฒนาทางพิเศษสายใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ในรูปแบบบูรณาการระหว่างมอเตอร์เวย์และระบบราง (MR-Map) จากท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังหาดป่าตองและอำเภอเมือง แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างปี 2569 เปิดบริการปี 2573 และระยะที่ 2 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต–กะทู้ ระยะทาง 30.62 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างปี 2570 เปิดบริการปี 2573 เมื่อแล้วเสร็จจะลดเวลาเดินทางจากสนามบินสู่หาดป่าตองจาก 1 ชั่วโมงครึ่งเหลือเพียง 20 นาที
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนา “สะพานสารสินแห่งใหม่” ในรูปแบบสะพานขึงที่ไม่มีตอม่อในทะเล เพื่อให้เรือสำราญสามารถลอดผ่านไปยังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้สะดวก ถือเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัด พร้อมทั้งเชื่อมต่อโครงการท่าอากาศยานอันดามัน ที่จะเปิดให้บริการในปี 2573 โดยเส้นทางดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่าย MR-Map สาย MR9 สุราษฎร์ธานี–ภูเก็ต เชื่อมการเดินทางระหว่างอ่าวไทยและอันดามันอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงมีแผนพัฒนาทางรถไฟสายทับปุด–กระบี่ เพื่อเชื่อมโยงภูเก็ต–พังงา–กระบี่ ให้เป็นเครือข่ายคมนาคมเดียวกัน โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2573 และเปิดให้บริการปี 2577
นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “หลังจากเราจัดการปัญหาการจราจรระยะสั้นแล้ว เป้าหมายต่อไปคือระบบขนส่งสาธารณะภายในเมืองภูเก็ต ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเตรียมพัฒนารถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail) จากท่าอากาศยานภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กิโลเมตร ในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถบัสไฟฟ้า (EV Bus) ก่อน และจะพัฒนาเป็นระบบรางเบาเต็มรูปแบบภายในปี 2574 เพื่อให้ภูเก็ตเป็นเมืองที่เดินทางได้สะดวก ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้อย่างแท้จริง”
ในโอกาสนี้ นายพิพัฒน์ได้ขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต สมาชิกวุฒิสภา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตัวแทนสภาอุตสาหกรรม หอการค้า สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงภาคเอกชนที่เข้าร่วมประชุมกว่า 30 หน่วยงาน โดยระบุว่า “การพูดคุยในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการลงมือทำจริง ทุกโครงการที่ตกผลึกจากการหารือ จะถูกนำไปสู่การดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนเห็นการเปลี่ยนแปลง และให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาภูเก็ตได้อย่างสะดวกสบาย”
ด้านนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวเสริมว่า ภายใต้นโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กระทรวงได้มอบหมายให้ทุกกรมในสังกัดขับเคลื่อนโครงการอย่างบูรณาการ ทั้งด้านถนน ทางราง ทางเรือ และท่าอากาศยาน โดยจะเร่งออกแบบ จัดลำดับความสำคัญ และบริหารแผนงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายในไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อยกระดับภูเก็ตให้เป็นเมืองต้นแบบของระบบคมนาคมภาคใต้ทุกหน่วยงานจะเดินหน้าไปพร้อมกัน เพื่อให้ภูเก็ตไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองที่ประชาชนอยู่ดี เดินทางสะดวก และภาคเศรษฐกิจท้องถิ่นเติบโตอย่างยั่งยืน
การลงพื้นที่ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางเชิงรุกของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมในการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจท่องเที่ยวของประเทศ ทั้งการลดเวลาเดินทาง เพิ่มความปลอดภัย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบขนส่งที่ครบวงจร เพื่อให้ภูเก็ตก้าวสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ยั่งยืน และเป็นแบบอย่างของการพัฒนาเมืองเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง