ถ้าพูดถึงกล้องที่คนทั่วไปคุ้นชื่อ เรามักจะนึกถึง Canon, Sony หรือ Leica — แบรนด์ที่อยู่ในมือของช่างภาพสายสตรีทและคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แต่ในอีกมุมหนึ่งของวงการ มีชื่อหนึ่งที่ถูกพูดถึงอย่างเงียบ ๆ ระหว่างมืออาชีพ — Hasselblad กล้องสัญชาติสวีเดนที่ไม่ได้เน้นฟังก์ชันหรือจำนวนรุ่น แต่เป็นชื่อที่แทบทุกคนในสายอาชีพยกให้เป็น “มาตรฐานของคุณภาพภาพถ่าย”
ตั้งแต่วันแรก Hasselblad มีจุดยืนชัดเจนว่า “ภาพที่ดีต้องเกิดจากความเที่ยงตรงของแสงและสี” กล้องทุกตัวถูกสร้างขึ้นด้วยมือในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ภายใต้มาตรฐานที่ให้ความสำคัญกับความแม่นยำมากกว่าการผลิตจำนวนมาก ความละเอียดในกระบวนการผลิตนี้ทำให้แบรนด์เล็กจากสวีเดนค่อย ๆ เติบโตจนกลายเป็นชื่อที่ถูกกล่าวถึงในทุกสตูดิโอระดับโลก
จากห้องปฏิบัติการสู่อวกาศ — จุดเริ่มต้นของความแม่นยำระดับโลก
เรื่องราวของ Hasselblad เริ่มขึ้นในปี 1941 จากกิจการเล็ก ๆ ของ Victor Hasselblad ชายผู้เคยกล่าวไว้อย่างตรงไปตรงมาว่า “I wanted to make a camera that could make a better picture.” — “ผมต้องการสร้างกล้องที่ให้ภาพที่ดีกว่าทุกสิ่งที่มีอยู่” เขาได้รับมอบหมายจากกองทัพอากาศสวีเดนให้ผลิตกล้องสำหรับภารกิจลาดตระเวนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ผลลัพธ์คือ Hasselblad HK7 กล้องที่ทนทานและเที่ยงตรงเหนือความคาดหมาย
หลังสงคราม Victor นำความรู้ด้านกลไกและมาตรฐานจากโครงการทหาร มาพัฒนากล้องเชิงพาณิชย์รุ่นแรก Hasselblad 1600F (1948) ซึ่งใช้แนวคิด Modular System — ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเลนส์ ฟิล์มแบ็ค หรือช่องมองภาพได้อิสระ กล้องเพียงตัวเดียวจึงตอบโจทย์งานถ่ายภาพหลากหลายแนวทาง แนวคิดนี้กลายเป็นรากฐานของระบบ Hasselblad ทุกยุค
ปี 1962 คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อองค์การ NASA ต้องการกล้องที่เที่ยงตรงและทนต่อสภาวะสุดขั้วในอวกาศ นักบินอวกาศ Wally Schirra จากภารกิจ Mercury 8 นำ Hasselblad 500C ไปใช้งานส่วนตัว ผลลัพธ์คือภาพจากอวกาศที่คมชัดจน NASA ตัดสินใจเลือก Hasselblad เป็นกล้องหลักในทุกภารกิจถัดมา และในปี 1969 Hasselblad 500EL Data Camera ได้เดินทางขึ้นสู่ดวงจันทร์พร้อม Apollo 11 เพื่อบันทึกภาพรอยเท้ามนุษย์ครั้งแรกบนพื้นผิวต่างดาว ภาพเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงบันทึกทางวิทยาศาสตร์ แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย — ภาพที่ทำให้มนุษย์ทั้งโลกหันกลับมามอง “โลกของตัวเอง” ด้วยมุมมองใหม่
หลังจากสร้างชื่อในอวกาศ Hasselblad กลับมาสู่โลกแฟชั่นและศิลปะด้วยสถานะใหม่ — กล้องที่มืออาชีพเชื่อมั่นมากที่สุด ช่วงทศวรรษ 1960s–1990s คือยุคทองที่ชื่อของ Hasselblad ปรากฏอยู่เบื้องหลังภาพแฟชั่นและพอร์ตเทรตระดับตำนานของ Richard Avedon, Irving Penn, และ Karl Lagerfeld เลนส์ Carl Zeiss ถ่ายทอดแสงและพื้นผิวได้ละเอียดราวกับมองด้วยตาเปล่า ภาพจาก Hasselblad มีโทนที่นุ่มและคมในเวลาเดียวกัน เป็นเอกลักษณ์ที่ช่างภาพเรียกว่า “Hasselblad Look” — ภาพที่สงบ เรียบ แต่เต็มไปด้วยน้ำหนักของอารมณ์
ในขณะที่ Leica ถูกยกให้เป็นกล้องแห่งอารมณ์และจังหวะชีวิต Hasselblad กลับยืนอยู่คนละขั้ว — กล้องแห่งความเที่ยงตรงและความตั้งใจ ทุกภาพเกิดจากการควบคุมอย่างละเอียดของแสง รายละเอียด และสมดุลขององค์ประกอบ ดังที่ช่างภาพระดับตำนาน Albert Watson เคยกล่าวว่า “The Hasselblad gives me a sense of control — total control — over tone, detail, and balance.” Hasselblad จึงไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือของศิลปินหรือวิศวกร แต่เป็นจุดบรรจบระหว่างเทคโนโลยีที่แม่นยำกับความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนของการสร้างภาพอย่างแท้จริง
การเข้าสู่ยุคดิจิทัล – H-System และปรัชญาที่ไม่เปลี่ยน
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล Hasselblad ยังคงยึดปรัชญาเดิมไว้อย่างชัดเจน — “คุณภาพต้องมาก่อนเทคโนโลยี” ปี 2002 แบรนด์เปิดตัว H-System กล้อง Medium Format ดิจิทัลที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ไม่ได้สร้างเพื่อเพิ่มพิกเซล แต่เพื่อรักษามิติของแสงและโทนที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad กล้องเรือธงอย่าง H6D-100c มาพร้อมความละเอียด 100 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผลสี HNCS (Hasselblad Natural Colour Solution) ที่ถ่ายทอดโทนผิวและวัตถุได้ใกล้เคียงการมองด้วยตาจริงมากที่สุด จนช่างภาพรีทัชระดับโลกกล่าวว่า “ไฟล์จาก Hasselblad แทบไม่ต้องแตะ” แม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป แต่แนวคิดของ Hasselblad ยังคงเหมือนเดิม — กล้องที่ถูกสร้างขึ้นจากความเข้าใจในภาพถ่าย มากกว่าการแข่งขันด้านความเร็วของนวัตกรรม
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Hasselblad โดดเด่นในยุคดิจิทัลคือการรักษา ความต่อเนื่องของระบบเลนส์และการใช้งานระหว่างรุ่น กล้องดิจิทัลของ Hasselblad ไม่ได้ตัดขาดจากอดีต แต่ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับระบบฟิล์มดั้งเดิมได้อย่างแนบเนียน เลนส์จาก V-System ที่สร้างชื่อเสียงในยุคฟิล์มยังสามารถใช้งานร่วมกับกล้องดิจิทัลรุ่นใหม่ผ่านอะแดปเตอร์เฉพาะ และยังคงให้โทนแสงและคาแรกเตอร์แบบเดียวกับที่ช่างภาพยุคก่อนหลงรัก แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นว่า แม้เทคโนโลยีจะเดินหน้า Hasselblad ก็ยังคงรักษาความสัมพันธ์ระหว่าง “มือช่างภาพกับแสง” ไว้อย่างเที่ยงตรงที่สุด
พันธมิตรแห่งนวัตกรรม — Hasselblad และ DJI
ปี 2017 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Hasselblad เมื่อ DJI ผู้ผลิตโดรนและระบบกล้องระดับโลกจากจีน เข้ามาเป็นพันธมิตรทางกลยุทธ์ ความร่วมมือนี้ไม่ได้เปลี่ยนตัวตนของ Hasselblad แต่กลับเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีภาพถ่าย ทั้งด้านระบบกันสั่น เซ็นเซอร์ และการจัดการสีระดับมืออาชีพ เทคโนโลยีของ DJI ทำให้ Hasselblad มีความคล่องตัวมากขึ้น ในขณะที่จิตวิญญาณของแบรนด์ยังคงเดิม — มุ่งสร้างภาพที่เที่ยงตรงและงดงามที่สุด
ผลงานร่วมที่โดดเด่นล่าสุดคือ DJI Mavic 4 Pro ซึ่งใช้กล้องที่พัฒนาโดย Hasselblad พร้อมเทคโนโลยี Natural Colour Solution (HNCS) แบบเดียวกับในกล้อง Medium Format แสดงให้เห็นว่า ปรัชญาของ Hasselblad สามารถขยายจากสตูดิโอระดับมืออาชีพ ไปจนถึงอากาศยานขนาดเล็กได้โดยไม่สูญเสียคุณภาพของสีและแสง
Hasselblad ทุกซีรีส์ จากอดีตถึงปัจจุบัน
กว่า 80 ปีที่ผ่านมา Hasselblad พัฒนาระบบกล้องหลากหลายตระกูล โดยแต่ละรุ่นสะท้อนแนวคิดเดียวกัน — “ความเที่ยงตรงเหนือกาลเวลา”
• V-System (1948–2006) — กล้องฟิล์มแบบ Modular เช่น 500C และ 503CW ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความแม่นยำ และเป็นรุ่นที่ NASA เลือกใช้ในภารกิจ Apollo
• H-System (2002–ปัจจุบัน) — กล้อง Medium Format ดิจิทัลที่ออกแบบเพื่อคุณภาพสูงสุด เหมาะกับงานโฆษณา แฟชั่น และสตูดิโอขนาดใหญ่
• X-System (2016–ปัจจุบัน) — กล้อง Mirrorless Medium Format ตัวแรกของโลก ที่นำความละเอียดระดับสตูดิโอ ที่พกพาง่ายไม่เทอะทะเกินไป
• 907X & CFV Digital Back — การผสานอดีตกับอนาคต เชื่อมกล้องฟิล์ม V-System เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ได้อย่างสง่างาม
กล้อง Hasselblad รุ่นปัจจุบัน
ในปัจจุบัน Hasselblad มีสองตระกูลหลักที่สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ได้ชัดเจนที่สุด ได้แก่ X-System และ 907X System
• Hasselblad X2D II 100C — กล้อง Mirrorless Medium Format รุ่นล่าสุด ความละเอียด 100 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ BSI CMOS ขนาด 43.8 × 32.9 มม. พร้อมกันสั่น 5 แกนในตัว (IBIS) และระบบโฟกัส Phase Detection 294 จุด ตัวบอดี้อะลูมิเนียมขึ้นรูปทั้งชิ้นในสไตล์ Scandinavian เรียบ สงบ แต่มั่นคง หน้าจอทัชสกรีนตอบสนองได้ตามสัญชาตญาณ มอบประสบการณ์ที่ทั้งเที่ยงตรงและราบรื่น เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการพลังของ Medium Format ในร่างกล้องที่เบาและพกพาได้จริง
• Hasselblad 907X & CFV 100C — การผสมผสานระหว่างอดีตและอนาคตในร่างเดียว กล้องรุ่นนี้ใช้ Digital Back ขนาด 100 ล้านพิกเซล ที่สามารถถอดเปลี่ยนและต่อเข้ากับบอดี้ของกล้องฟิล์ม V-System ได้โดยตรง ทำให้เลนส์รุ่นเก่าที่ยังอยู่ในมือของช่างภาพทั่วโลกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นี่ไม่ใช่เพียงการต่อยอดเทคโนโลยี แต่คือการเชื่อมต่อระหว่างประวัติศาสตร์และความร่วมสมัยอย่างแท้จริง
ทั้งสองรุ่นสะท้อนจิตวิญญาณเดียวกัน — ความเที่ยงตรงของแสง ความงดงามของการออกแบบ และการสร้างสรรค์ที่อยู่เหนือเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในมือของช่างภาพสตูดิโอหรือผู้สร้างสรรค์รุ่นใหม่ Hasselblad ยังคงเป็นชื่อที่หมายถึง “ความสมบูรณ์ของภาพถ่าย” อย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่สนใจ Hasselblad
สำหรับผู้ที่สนใจกล้อง Hasselblad และต้องการสัมผัสคุณภาพของภาพถ่ายระดับมืออาชีพ กล้อง Hasselblad ในประเทศไทยจัดจำหน่ายโดย DJI Thailand และหนึ่งในพันธมิตรของ DJI ร้านจำหน่ายกล้องถ่ายภาพ EC MALL พร้อมให้คำปรึกษาหากคุณต้องการเป็นเจ้าของ กล้องและเลนส์ Hasselblad สักตัว เราพร้อมให้คำแนะนำอย่างตรงไปตรงมาสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นก้าวแรกกับโลกของ Hasselblad — กล้องที่นิยามความหมายของ “ความเที่ยงตรงเหนือกาลเวลา” ได้อย่างแท้จริง