เรียกได้ว่ายิ่งโตยิ่งสวย..
สำหรับ "ขนมจีน-กุลมาศ ลิม-ปวุฒิวรานนท์" นักร้องสาวจากค่ายกามิกาเซ่ จากภาพเดิมที่ดูสวยใส ถึง ณ ปัจจุบัน เธอโตเต็มวัย ที่อุดมไปด้วยความสวย โฉบเฉี่ยว "โชะเด๊ะ" ฉบับนี้ จึงไม่พลาดที่จะเสิร์ฟ "ขนมจีน" จานแซ่บให้ท่านผู้อ่านรู้ถึงที่มาที่ไปกว่าเธอจะมาถึงวันนี้
"ขนมจีน เริ่มร้องเพลงตั้งแต่อายุ 8 ขวบ หลังจากนั้นก็ไปเข้าประกวดโน่นนี่มาบ้าง แต่ได้มาเป็น แชมป์เคพีเอ็นอวอร์ดปี 2004 ตอน นั้นอายุประมาณ 11 ขวบ แล้วหลัง จากนั้น ครูแหม่ม-พัชริดา เขาเห็น แววแล้วเรียกมาออดิชั่นเป็นศิลปิน ที่อาร์เอส ในช่วงประมาณ ม.3 และ เขาก็บอกว่ามีโปรเจกต์กามิกาเซ่ลองดูมั้ย ซึ่งในตอนแรกหนูก็งงว่า มันคืออะไร เพราะมันเป็นครั้งแรก ที่มารวมตัวกันแล้วพอได้มาอยู่ในค่ายก็ได้มาออกอัลบั้มเดี่ยว การที่เขาดึงเข้ามาร่วมโปรเจกต์ น่าจะเป็นว่าขนมจีนเป็นคนที่ชัดเจนในแนวป๊อบร็อกและเลือกร้องเพลงสมัยใหม่ในการประกวด ก็เลยทำให้เขาสะดุดตาเรา"
"สำหรับอัลบั้มแรกคือเหมือนแบบทุกอย่างลุคหรือว่าเสียงตอนนั้น ยังเด็กมากๆ แต่พอวัยเดียวกันเขาก็ฟังนะ แต่มาตอนนี้ ทุกอย่างมันก็เพิ่มมาตามอายุ อย่างสมัยก่อนจะโผงผางตามแบบฉบับเด็กมีอะไรก็พูด โวยวายตามเรื่อง แต่พอโตมาเรื่อยๆ มันเริ่มที่จะลึกซึ้งเรื่อยๆ อย่างดนตรีก็โตขึ้นตามลำดับ อย่างอัลบั้มล่าสุดที่มีชื่อว่ามีนนิ่ง เพราะอยากที่จะเข้าถึงความหมายของคำว่ารัก อาการอกหักอย่างแท้จริงเป็นยังไง จากที่ผ่านมาขนมจีนร้อง โดยการที่บิวท์อารมณ์จากการดูหนังอ่านหนังสือฟังเพลงดูเอ็มวีมากกว่า แต่พอเรามาได้เรียนการแสดง ครูเงาะจะสอน และมีเทคนิคให้เราได้รู้สึกใกล้เคียงมากขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดเหตุการณ์อย่างนั้นจริงๆ แต่เราสามารถ ที่จะเทียบเคียงและเข้าใจความหมายมากขึ้น"
+ เติบโตขึ้นตามวัย แถมอัลบั้มใหม่ "ขนมจีน" ยังมีส่วนร่วมมากขึ้น..
"แทบจะทุกอย่างเลยค่ะเหมือนกับว่าเราแชร์ แล้วก็หาจุดตรงกลางมาก กว่าระหว่างส่วนที่ขนมจีนชอบ โปรดิวเซอร์อยากให้เป็นค่ายอยากให้เป็นก็อยู่ที่กึ่งกลางที่โอเคทุกๆ คนแฮปปี้ สำหรับเสียงตอบรับก็ดีนะคะ จากที่แต่ก่อนร้องแต่เพลงอกหักรักคุด (หัวเราะ) แต่มาครั้งนี้ก็จะสมหวังและจะทำให้คนเห็นความแตกต่างของเรามากขึ้น และมันเป็นเพลงเร็วซึ่งขนมจีนอยากที่จะมีมานานมากแล้ว ไม่เคยมีเพลงเร็วเลยพอมีแล้วมันแบบเวลาที่เราไปร้องเพลงคอน-เสิร์ตอย่างเนี้ยมันสนุกไม่ต้องยืมเพลงใครร้อง ส่วนตัวเราก็ชอบแฟนๆ ก็ชอบสนุกๆ กัน และเขาจะแซวๆ ว่าดีใจด้วยสมหวังแล้วปกติอกหักตลอด (หัวเราะ) ตอนนี้เพิ่งจะมีซิงเกิ้ลใหม่ปล่อยออกมาก็คือ เพลงทำใจไม่ได้ อันนี้จะออก แนวร็อกผู้ชายเลยแต่ว่าเป็นเราผู้หญิงร้องก็เลยจะดูแตกต่างหน่อย จากที่ผ่านมาที่เคยทำเป็นป๊อป ร็อกก็จริง แต่ถ้าฟังจะเป็นป๊อบร็อกผู้หญิง แต่เพลงนี้มันจะออกแนวแมนมากแต่เรา ก็พยายามที่จะกลมกลืน"
+ ไม่ใช่ดังเฉพาะประเทศไทย เพราะในต่างประเทศ "SHE" ก็มีแฟนคลับ..
"ใช่ค่ะ คือ ไปเล่นคอนเสิร์ตจะมีที่ญี่ปุ่นจะไปแบบว่ามีตติ้งแฟนบ้างคือมีแฟนคลับที่โน่นแล้วก็ไปร้องเพลงในงานไทยเฟสติวัล ที่โตเกียวกับโอซาก้าแล้วก็เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปร้องเพลงที่ประเทศจีนในงานเอเชี่ยนเกมส์ แล้วก็มีไปมาเลเซียไปสิงคโปร์ ส่วนประเทศเพื่อนบ้านลาวก็เคยไปมาบ้าง"
"แต่ถามว่าแฟนคลับมีมากมั้ย อย่างญี่ปุ่นเวลาที่เขามาประเทศไทยเขาจะมาตามเรา คือเขาน่ารัก ขนมจีนชอบวัฒนธรรมเขาอย่างหนึ่งเวลาที่ เจอกันจะต้องมีของติดไม้ติดมือมาฝากเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี คือมันเป็นอะไรที่น่ารักแล้วก็อย่างที่ลาวก็ดีเวลา ไปเล่นคอนเสิร์ตคนเยอะมากเยอะแบบสุดลูกหูลูกตาที่สำคัญคือ เขาร้องเพลงเราได้ มันอาจเป็นเพราะประเทศเราใกล้กันด้วย เวลาเพลงที่นี่ดังที่นั่นก็ดังด้วย ทางด้านแฟนคลับในประเทศไทยก็ดีค่ะมันเหมือนพอเราโตขึ้นกลุ่มก็จะกว้างมากขึ้น สมัยก่อนจะเป็นแบบเด็กๆ น้องๆ แต่ว่าตอนนี้เริ่มมีผู้ใหญ่รู้จักมากขึ้นเพราะแนวเพลงที่โตขึ้น"
+ นอกจากจะเสียงดี "ขนมจีน" ยังแตกไลน์ไปที่ งานการแสดง..
"เป็นละครเวทีเรื่องกุหลาบสีเลือดของ ครูเงาะ-รธสุคนธ์ เป็นแอ็กติ้งโค้ชของบริษัทจีทีเอชและก็เอเอฟค่ะ คือขนมจีนเป็นลูกศิษย์ครูเงาะอยู่แล้วด้วย และก็ได้มีโอกาสมาคุยโปรเจกต์นี้กันพอดี และได้เล่นเรื่องนี้ ในเรื่องมีพี่นุ่น-ศิรพันธ์ พี่เอ๋-มณีรัตน์ พี่อุ๋ม-อาภาศิริ พี่ญาริณดา รวมถึงครูเงาะเล่นเองด้วย เหมือนมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก เพราะอย่างที่เล่นเอ็มวีมันก็แค่แบบฉาบๆ หน้า แต่อันนี้มันลึกมากแล้วพี่ๆ แต่ละคนเขาขั้นเทพทั้งนั้นเลย มันเหมือนเราได้ครูดีสนุกและก็เป็นอะไรที่ประทับใจ เสียงและกระแสตอบรับก็ค่อนข้างดีคนแปลกใจว่า เออเราทำได้ เล่นได้ด้วยเหรอ มันเหมือนเป็นทางเปิดและ เราโชว์ความสามารถในเรื่องการแสดงด้วยเลย เป็นผลทำให้เรามีละคร เล่นด้วยในตอนนี้"
"คือเรื่องสาปสาง เป็นละครเกี่ยวกับผีๆ เคยคิดนะว่าจะไม่เล่นหนังผีเด็ดขาดเพราะกลัว แต่มาเล่นเรื่องแรกก็ได้เล่นเป็นผีเลย (หัวเราะ) แต่มันน่าสนใจพอเราอ่านบทแล้วรู้สึกชอบขึ้นมาเลย เพราะว่ามันได้เล่น 3 คาแร็กเตอร์ในตัวเดียวกัน คือ ตอนที่เป็นคนก็จะเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่ง แล้วตัวละครที่ขนมจีนต้องเล่นในเรื่องเขาจะเป็นคนเล่นละครเวทีดึกดำบรรพ์แล้วภาษาที่พูดมันจะไม่ใช่แค่พีเรียดธรรมดา มันจะยากมากคล้ายๆ กลอน ก็ต้องไปฝึกและมีรำด้วย และอีกตัวหนึ่งก็ตอนที่เป็นผีมาแก้แค้นคนที่เคยทำให้เราเจ็บปวดเอาไว้ ซึ่งมันก็จะแตกต่างกันท้าทายดีค่ะและก็สนุกดี อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องผู้ชนะสิบทิศ เรื่องนี้จะเป็นคุณหนูเอาแต่ใจตัวเองไม่ยอมคน ไม่ยากเท่าไหร่ นอกจากเรื่องภาษาพูดที่จะสละสลวยมาก แต่ว่าตัวของขนมจีนค่อนข้างเป็นคนกระฉับ กระเฉง"
นอกจากจะยิ่งโต ยิ่งสวยแล้ว "ขนมจีน" จานนี้ ยิ่งโตก็ยิ่งแซ่บ เว่อร์..โชะเด๊ะ!!!