สกพอ. นำทัพสื่อลงพื้นที่สถาบันการศึกษาจังหวัดชลบุรี เยี่ยมชมผลสัมฤทธิ์การพัฒนาทักษะบุคลากรครบมิติ สร้างคนตรงความต้องการอุตสาหกรรมเป้าหมาย เสริมปัจจัยหลักดึงดูดการลงทุนสู่พื้นที่อีอีซีต่อเนื่อง
ระหว่างวันที่ 20 - 21 พ.ย. 2568 ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ สกพอ. พร้อมด้วยผู้บริหารฯ ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ในจังหวัดชลบุรี เพื่อเยี่ยมชมและติดตามผลสัมฤทธิ์จากการพัฒนาทักษะบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายที่วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และโรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทยา) เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการสร้างระบบนิเวศการลงทุนด้านการยกระดับทักษะบุคลากรและการศึกษา (EEC Model) ในพื้นที่อีอีซี ตามหลักการ Demand Driven Human Resource Development เพิ่มทักษะและประสิทธิภาพของแรงงาน สามารถทำงานได้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างบุคลากรตรงกับความต้องการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ช่วยสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนจากทั่วโลก เข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีมากขึ้น และสามารถเชื่อมโยงการลงทุนไปสู่การพัฒนาพื้นที่และชุมชนอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ สกพอ. ได้นำสื่อมวลชน ติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาบุคลากรทักษะสูง และเยี่ยมชมตัวอย่างความสำเร็จของสถาบันการศึกษา ได้แก่
1) วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ สถาบันการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ได้รับรองการเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดินจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย The Civil Aviation Authority of Thailand (CAAT) และได้ร่วมกับ สกพอ. พัฒนาศูนย์เครือข่ายการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรมอากาศยาน ภายใต้แนวทาง EEC Model Type A (การผลิตบุคลากรพร้อมใช้ เอกชนร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเรียน ร้อยละ 100 และรับนักศึกษาเข้าฝึกงานในสถานประกอบการ) ที่มุ่งสร้างบุคลากรสายเทคนิคในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อุตสาหกรรมอากาศยาน โลจิสติกส์ และธุรกิจการบิน เป็นการเตรียมความพร้อมในการเป็นช่างเทคนิคและช่างซ่อมบำรุงอากาศยานที่มีทักษะสูง เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการบินและการซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) โดยสามารถผลิตบุคลากรด้านการบินสาขาช่างอากาศยานได้ 28 คนต่อปี สาขาธุรกิจการบิน 20 คนต่อปี และสาขาผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน 20 คนต่อปี และที่ผ่านมาวิทยาลัยเทคนิคสัตหีบได้ผลิตบุคลากร โดยเฉพาะในสาขาอากาศยานแล้วได้รวม 143 คน
2) มหาวิทยาลัยบูรพา : ศูนย์พัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูงยุคใหม่ (ENTOUR) หรือ Tourism Innovation Lab (TIL) มีเป้าหมายยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวสู่ความยั่งยืน ผ่านการบ่มเพาะบุคลากรและสร้างนวัตกรรมการบริการ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (High-value and Medical Tourism) ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของอีอีซี โดยภายในศูนย์ TIL-ENTOUR แบ่งออกเป็น 6 โซนหลักๆ พร้อม 19 ห้องการเรียนรู้ เช่น ห้องฝึกทดลองปฏิบัติด้านการโรงแรม ห้องปฏิบัติการสายการบิน หรือ Airline Services ห้อง Streaming Live สด ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกใช้ทักษะในสถานการณ์เสมือนจริงและห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย สามารถพัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวสมัยใหม่และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น
3) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก ศูนย์เครือข่ายการพัฒนาบุคลากรด้านเมคคาทรอนิกส์ หรือ ENMEC (EEC Networking of Mechatronics Excellence Center) เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาทักษะบุคลากร ซึ่งศูนย์ ฯ ENMEC แห่งนี้ ได้เน้นหลักสูตรการใช้เครื่องจักรกลอัตโนมัติ ระบบหุ่นยนต์ และระบบการผลิตอัจฉริยะ เพื่อให้นักศึกษา หรือผู้ที่เข้ารับฝึกอบรมระยะสั้นตาม อีอีซี โมเดล Type B (การผลิตบุคลากรในระยะเร่งด่วน ด้วยการฝึกอบรมระยะสั้น Short Course รัฐและเอกชนร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่าย 50 : 50) สามารถมีทักษะรองรับการผลิตในโรงงานที่ใช้นวัตกรรมขั้นสูง และเป็นเตรียมบุคลากรเพื่อรองรับนักลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซีต่อเนื่อง
4) โรงเรียนเมืองพัทยา 11 (มัธยมสาธิตพัทยา) โรงเรียนได้ทดลองใช้หลักสูตรการเรียนการสอนด้านภาพยนตร์ ซึ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก ผ่านการลงมือทำจริง สอดคล้องกับการพัฒนาเมืองพัทยาให้ก้าวสู่ เครือข่ายเมืองสร้างสรรรค์ด้านภาพยนตร์ขององค์การยูเนสโก โดย กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สกพอ. ให้การสนับสนุนงบประมาณสำหรับการจัดซื้ออุปกรณ์ 25 รายการ เพื่อใช้ในการผลิตคอนเทนต์ดิจิทัล อาทิ การส่งเสริมการท่องเที่ยวอีอีซี รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากเมืองพัทยา ร่วมสมทบงบประมาณเพื่อให้เยาวชนได้ใช้ ห้องปฏิบัติการและสตูดิโอในการเรียนรู้และผลิตผลงานดิจิทัลคอนเทนต์อย่างมืออาชีพ ทั้งการเขียนบท การกำกับ การถ่ายภาพ และการตัดต่อ โดยผลงานของนักเรียนถูกนำไปเผยแพร่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่อีอีซีต่อไป
สำหรับความก้าวหน้าในการพัฒนาบุคลากรสำหรับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี พบว่า ผลการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบันประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้ทำงานร่วมมือกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ตรงความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ภายใต้รูปแบบ EEC Model ซึ่งพบว่า เกิดการผลิตบุคลากรแล้วกว่า 118,691 คน โดยในปี 2568 จะสามารถผลิตบุคลากรได้เพิ่มขึ้น 24,377 คน จากประมาณความต้องการบุคลากรรองรับการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี ระหว่างปี 2568 – 2572 โดยเฉพาะใน 5 คลัสเตอร์หลัก พบว่ามีความต้องการกำลังคนสูงถึง 156,879 คน แบ่งเป็นอุตสาหกรรมดิจิทัล รวม 66,600 คน อุตสาหกรรมบริการ 50,600 คน อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต รวม 20,403 คน อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพรวม 10,857 คน และอุตสาหกรรม BCG รวม 8,419 คน