"มัลลิกา" สั่ง ทย. ยกระดับเฝ้าระวัง 24 ชม. เตรียมรับมือฝนถล่มใต้ ย้ำ! 9 ท่าอากาศยานเตรียมพร้อมแผนฉุกเฉิน - แผนช่วยเหลือประชาชนหลังน้ำลด

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568



นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักมาก ให้ระวังน้ำท่วมและดินโคลนถล่มในพื้นที่เสี่ยงบริเวณภาคใต้ของไทย ได้แก่ จังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส รวมถึงจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง และสตูล นั้น จึงได้สั่งการให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง 

โดยให้ท่าอากาศยานในสังกัด ทย. ทางภาคใต้ทุกแห่ง เตรียมพร้อมรับมือปฏิบัติตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเฝ้าระวังพื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินไม่ให้กระทบต่อการขึ้น - ลงของอากาศยาน จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ตรวจวัดระดับความสูงของน้ำทั้งภายในและภายนอกท่าอากาศยาน ตรวจสอบรางระบายน้ำเพื่อป้องกันการอุดตันและให้การไหลของน้ำมีความคล่องตัว รวมถึงจัดเตรียมเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าสำรอง กรณีระบบส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดขัดข้อง และให้ ทย. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น หอบังคับการบิน สำนักงานอุตุนิยมวิทยา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เตรียมความพร้อมกรณีเกิดสาธารณภัย เพื่อแก้ไขสถานการณ์พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารและอากาศยานได้อย่างทันท่วงที

นางมัลลิกา กล่าวต่อว่า นอกจากการเฝ้าระวังเหตุและเตรียมความพร้อมรับมือตามแผนบรรเทาสาธารณภัยอย่างเคร่งครัดแล้ว ยังได้สั่งการ ทย. ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับเครื่องบินทหาร เครื่องบินทางการแพทย์ และเครื่องบินของ ปภ. ในการนำความช่วยเหลือสู่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย รวมถึงให้เตรียมความพร้อมรถฉีดน้ำดับเพลิงแรงดันสูง เพื่อช่วยทำความสะอาดสถานที่และบ้านเรือนของประชาชนภายหลังน้ำลดด้วย 

นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานทางใต้ที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คือ ท่าอากาศยานนราธิวาส โดยขณะนี้ท่าอากาศยานนราธิวาส ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานขอความอนุเคราะห์จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 จังหวัดสงขลา ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกล บริเวณหัวทางวิ่ง 20 ซึ่งมีน้ำท่วมขังเนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่การบินไปยังพื้นที่ภายนอกไม่ให้กระทบต่อการให้บริการผู้โดยสาร และเพื่อให้อากาศยานทำการบินขึ้น - ลงได้อย่างปลอดภัย ในส่วนของการเดินทางมายังท่าอากาศยานนราธิวาส เส้นทางเข้า - ออกมีน้ำท่วมขังเปิดให้บริการได้ 1 ช่องทาง และมีน้ำท่วมขังลานจิดรถยนต์ไม่สามารถให้บริการได้

สำหรับท่าอากาศยานทางภาคใต้ในสังกัดของ ทย. อื่น ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ  โดยระดับน้ำบนพื้นผิวทางวิ่ง พื้นผิวทางขับ และพื้นผิวลานจอดอากาศยานอยู่ในค่ามาตรฐานที่เปิดให้บริการได้ ไม่มีผลกระทบต่อการขึ้น - ลงของอากาศยาน ปริมาณน้ำบริเวณบ่อพักน้ำและร่องระบายน้ำในเขตการบินอยู่ในระดับปกติ ระบบป้องกันน้ำท่วมสามารถใช้งานได้ปกติ การเดินทางมายังท่าอากาศยาน สามารถเดินทางได้ปกติ แต่บางพื้นที่อาจมีน้ำท่วมขังภายในจังหวัด รถเล็กควรใช้ความระมัดระวังในการสัญจร

ทั้งนี้ ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังท่าอากาศยาน อย่างน้อย 3 – 4 ชั่วโมง ซึ่ง ทย. ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานให้ผู้โดยสารทราบกรณีเกิดสถานการณ์เร่งด่วน 
โดยสามารถติดตามข่าวสารได้ทาง Facebook Fanpage : Department of Airports 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ