ไม่ว่าจะหยิบจับทำอะไรเป็นต้องประสบความสำเร็จไปซะทุกเรื่อง..
สำหรับนักร้องและพระเอกดังฉายาหล่อขั้นเทพ "โดม-ปกรณ์ ลัม" ล่าสุดถึงแม้ว่าความรัก รีเทิร์นกับแฟนสาว "กัสจัง" จะไม่เป็นอย่างใจหวังมีแววจะรักร้าวทางใครทางมันอีกครั้ง แต่ "หนุ่มโดม" ก็ไม่หวั่นยังขอแยกแยะเรื่องงานและเรื่องหัวใจ หันลุยงานบริหารค่ายเพลง "Iconic Records" ของตัวเองต่อไป แถมยังชิมลางร้องเพลงสากลเพื่อเปิดขยายตลาดใหม่ให้กับตัวเองอีกด้วย
"ตอนนี้มีการโปรโมตกันอยู่ครับเรามีการโปรโมตกันหนักตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้หยุดโปรโมตเลยครับ กับอัลบั้มคอมเปเรชั่นที่ตอนเปิดค่ายที่เราเปิดเพลงไปเมื่อเดือน ธันวาคม ตอนนี้เรียบร้อยแล้วจะเจอกันกลางเดือนมีนาคมนี้แน่นอน ชื่ออัลบั้มนิวออเดอร์ครบหมดละในตอนนี้"
"ตอนนี้ค่ายเพลงผมเปิดออกไปพร้อมกับเปิดตัว 5 ศิลปินจริงๆ แล้วศิลปินทั้งหมดนี้จะมีอัลบั้มเป็นอัลบั้มเต็มมารวมกันอยู่ในอัลบั้มเดียวเลยมันจะเป็นการบอกสีสันของค่ายเราทั้งหมดอยู่ในนั้นจะเล่าเรื่องราวผ่านมาจากเพลงในนี้เราจะมีเพลงกันคนละสองเพลงและเราคิดว่าจะทำอัลบั้มนิวออเดอร์ไปเรื่อยๆ ปลายปีนี้อาจจะมีนิวออเดอร์สอง ซึ่งก็ให้โอกาสศิลปินหน้าใหม่ทั้งหมดอีก หลังจากนี้เราจะไปออดิชั่นไปควานหาจากยูทูบอะไรแบบนี้ตามสไตล์ที่เราถนัด"
นอกจากจะนั่งเก้าอี้เป็นผู้บริหารค่ายเพลงแล้วหนุ่มหล่อขั้นเทพก็ยังอดไม่ได้ที่จะลงไปจับไมค์ดวลเพลงกับเหล่าสมาชิกศิลปินในค่ายอีกด้วย
"มีครับผมร้องด้วย ซึ่งตอนนี้ซิงเกิ้ลโดมเสร็จแล้ว ครับออกไปตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมานี้ ชื่อเพลง can you hear me ได้ยินฉันมั้ยเป็นเพลงภาษาอังกฤษเป็นเพลงแรกในชีวิตของโดมที่ร้องเพลงภาษาอังกฤษ ซึ่งตรงนี้เรามีคิดเอง แต่ยอมรับว่าเรื่องในส่วนของภาษาอังกฤษเราคงต้องให้คนที่เขาคล่องและมีความสามารถตรงนี้จริงๆ ซึ่งเราได้คุณจอห์น แดง ลูกครึ่งอังกฤษกับเวียดนามเป็นนักแต่ง เพลงที่เคยร่วมงานกับพวกนักร้องอังกฤษมาแล้วอย่าง ร็อบบี้ วิลเลี่ยม ให้เขามาดูเรื่องเนื้อทั้งหมดและทำนอง"
เตรียมส่งตัวเองเป็นหนูทดลองร้องเพลงสากล ออกบุกตีตลาดต่างประเทศ ถ้าเวิร์กก็พร้อมที่จะเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตเอาใจคอแฟนคลับต่างประเทศ
"ที่เลือกเพลงสากล เพราะผมมองว่าเพลงไทยทุกคนรู้จักและฟังโดมร้องมานานมากแล้ว เยอะแล้ว ลองมาทำเพลงสากลดูบ้างในวันนี้ผมมองว่าตลาดเพลงในโลกมันแคบลงวัฒนธรรมเริ่มเป็นวัฒนธรรม โลกแล้ว เหมือนคนทั้งโลกทำอะไรใช้เวลาไม่นานอาจ แค่เดือนสองเดือน สมมติคนยุโรปนิยมทำอะไรขึ้นมา อย่างฮาเร็มเช็ก สมมติเดือนเดียวทุกคนทั้งโลกรู้และ ทำตามหมดมันอิมแพ็กไปทั้งโลกและผมรู้สึกว่ามันก็น่าจะเป็นโอกาสที่เราจะลองดู อย่างเมื่อก่อนการที่จะ ทำเพลงทีต้องใช้เงินทุนเยอะมาก ต้องใช้ค่ายใหญ่ๆ ผลักดัน แล้วตอนนี้ยิ่งเป็นโอกาสที่ดีที่ศิลปินไทยเป็นที่นิยมในจีน ตลาดต่างประเทศ ที่พูดภาษาจีน เช่น ไต้หวัน เมืองจีน และก็สิงคโปร์ด้วย มาเลเซียหน่อยๆ"
"ผมเลยรู้สึกว่าไม่แปลกที่จะลองดูและประเทศที่ผมพูดมาทั้งหมดโดมก็มีแฟนคลับอยู่พอสมควรเลยทีเดียวในเมื่อผมจะร้องสักเพลงซึ่งเขาสามารถที่จะเข้าใจได้เนี่ยก็น่าจะมีเหตุผลบ้างนะ (ยิ้ม) มันเหมือนกับเป็นการที่เราจะลองไปเปิดตลาด ใหม่ ให้กับตัวเอง แต่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะโดม รู้ว่าเพลงภาษาอังกฤษในเมืองไทยตลาดมันค่อนข้าง จะเล็กมาก คนไทยยังไม่ได้เอ็นจอยกับเพลงภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ แต่ว่าในตลาดต่างประเทศ เพลงนี้มันเหมือนประตูบานแรก ซึ่งเปิดมาให้ทุกคนได้รู้จักโดม ซึ่งทุกคนที่รู้จักโดมในฐานะนักร้องเนี่ยน้อยกว่าคนต่างชาติที่รู้จักโดมในฐานะนักแสดง เพราะว่าละครเรื่องรักไม่มีวันตายที่เป็นแวมไพร์ พอไปฉายที่ประเทศอื่นในเอเชียรู้จักผมหมด บางคนไม่รู้ว่าเราร้องเพลงรู้แค่ว่าเราเป็นนักแสดงก็ถือว่าเป็นประตูบานที่ดีเลยทีเดียว แม้มันจะไม่ได้อะไรมากแต่มันก็เป็นอินโทรของตัวเราในฐานะนักร้อง ผมอาจจะไปตระเวนเปิดมินิคอนเสิร์ตเพื่อชิมลางก่อนก็ได้"
"ตอนนี้คิดไว้ว่าจะทำสองซิงเกิ้ลที่เป็นภาษาอังกฤษอาจจะมีขึ้นอีกเพลงหนึ่งแล้วถ้ามันซัคเซส ก็จะเริ่มไปทัวร์คอนเสิร์ตที่โน่นดู อย่างเพลง can you hear me มันจะเป็นเพลงเต้นรำแบบเต้นๆ เลยครับ ลักษณะจะเป็นเพลงป๊อป แต่ว่ามันคงจะไม่ได้โดนแบบเต้นขาขาดเหมือน กังนัมสไตล์อะไรขนาดนั้น จะเป็นเพลง เท่ เล่าถึงเหตุผลและเรื่องราวมันเป็นเรื่องราว ที่ทั่วโลกเป็นอยู่เหมือนกับตอนนี้คนเราแอนตี้โซเชียล แอนตี้การตัดขาด จากสังคมคนรอบข้างก็คือพูดง่ายๆ ว่าเล่นแต่โทรศัพท์ก้มอยู่ในโลกส่วน ตัวขนาดอยู่ใกล้ๆ กันยังแชตกันเองเจออะไรแทนที่จะมองด้วยตาก็ถ่ายผ่านโทร-ศัพท์แล้วแชร์ผมเลยรู้สึกว่าโลกนี้เรายังหมุนด้วยมนุษย์อยู่เราหายใจทางจมูกอยู่อยากที่จะวางทุกอย่างลงและจับมือกันเหมือนที่เราฟิลกัน"
เป็นทั้งนักร้องและผู้บริหารในร่างเดียวกัน แต่โดม ก็ไม่เคยท้อตรงกันข้ามรู้สึกสนุกและเต็มที่กับงานอย่างสุดๆ เนื่องจากได้ทำงานที่ตัวเองชอบ
"เหนื่อยแต่สนุกครับ (ยิ้ม) คือ เหมือนโดมได้ทำ งานที่โดมรักผมเชื่อนะว่า ถ้าเราเอางานอดิเรกหรือว่ากิจกรรมที่เป็นแบบที่เราชอบมาทำ และหาเงินไปด้วยมันจะเป็นอะไรแล้วมันก็สนุกและทำออกมาได้ดีมากดีกว่าที่เราจะต้องไปฝืนทำงานอะไรที่ตัวเองไม่ชอบและไม่รักเลย ส่วนกับงานบริหารมันก็มีบ้างที่เราต้องมีการแก้ปัญหาและเรียนรู้ที่จะดำเนินไปกับมัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าเราจะทุ่มเทและตั้งใจทำ มันเต็มที่แล้วหรือยัง"
อย่างนี้ต้องเรียกว่า "อินดี้โดม" หล่อขั้นเทพ กระฉูดไอเดียล้ำๆ ฝันไกลโกอินเตอร์..โชะเด๊ะ!!!