PTG คาดปริมาณการขายน้ำมันขยายตัวต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง จากช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ มั่นใจดันยอดทั้งปีโต 30-40% จากปีก่อน พร้อมมุ่งต่อยอดธุรกิจการการให้บริการแบบครบวงจรในปั๊มน้ำมัน PT ทั้งตั้งเป้าเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตร PT Max Card ปีนี้ที่ 5.6 ล้านราย เข้าใช้บริการ ทั้งตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันอีก 300 สถานี โดยในสถานีมีบริการแบบครบวงจร ทั้งร้านอาหารชื่อดัง กาแฟพันธุ์ไทย มินิมาร์ท รวมถึงสนับสนุนเอสเอ็มอีคนไทยให้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานี คาดอนาคตรายได้จากNON-OIL มีโอกาสเติบโตสูง
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)หรือ PTG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้ มั่นใจว่ากำไรสูงกว่าปีก่อนที่ทำได้ 650 ล้านบาท เนื่องจากเพียงครึ่งแรกของปี 59 บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 609.82 ล้านบาท โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ปีนี้จะใกล้เคียงกับครึ่งปีแรกที่มี Net Margin อยุ่ที่ 1.95% ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง ปริมาณยอดขายน้ำมันยังเติบโตต่อเนื่อง ทำให้คาดว่า ปริมาณการขายน้ำมันทั้งปีจะสามารถเติบโตได้ในระดับ 30-40% จากปีก่อนที่ 2.23 พันล้านลิตร
นอกจากนี้ ค่าการตลาดยังอยู่ในระดับที่ดีที่ 1.7-1.8 บาทต่อลิตร รวมถึงจำนวนผู้ถือบัตร PT Max Card ปัจจุบันอยู่ที่ 4.6 ล้านราย โดยทั้งปีตั้งเป้า 5.6 ล้านราย อีกทั้งบริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี
ทั้งนี้ คาดว่าช่วงที่เหลือปีนี้ ปริมาณการขายน้ำมันของบริษัทจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากช่วงครึ่งปีแรกที่มีปริมาณการขายน้ำมันรวม 1,440 ล้านลิตร เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศคงอยู่ในระดับที่ต่ำ และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ โดยเฉพาะเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่มีวันหยุดยาวหลายวัน ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการท่องเที่ยว และการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน จึงมั่นใจว่า ปริมาณการขายน้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้น 30-40% จากปีก่อนที่มีปริมาณการขาย 2,237 ล้านลิตร และคาดว่า EBITDA ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 30% จากปีก่อน
สำหรับแผนการเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมัน ปีนี้่จะเพิ่มอีก 300 สถานี และสถานีแก๊ส LPG อีก 50 สถานี รวมถึงการขยายสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มอีก 25-30 สถานี และในสถานีบริการน้ำมันจะมีร้านอาหารแบรนด์ดัง อาทิ KFC เข้ามาเปิด รวมถึงสนับสุนเอสเอ็มอีคนไทยให้เข้ามาดำเนินกิจการในสถานีบริการ รวมถึงเดินหน้าขยายร้านกาแฟพันธุ์ไทยอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 35 สาขา ซึ่งในอนาคต รายได้จากธุรกิจ non-oil (รายได้ที่ไม่ได้มาจากการขายน้ำมัน) มีโอกาสเติบโตสูง จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10% จะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 30-40%
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น ภายใต้แบรนด์ของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/59 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และเป็นการเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้ามากขึ้น
สำหรับลักษณะธุรกิจของ PTGแบ่งเป็น 6 กลุ่มหลักคือ ธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้สถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งแบ่งเป็นสถานีที่บริษัทเป็นเจ้าของเองและตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัทเป็นเจ้าของ ธุรกิจค้าส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่นและผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ธุรกิจค้าปลีกแก๊ส LPG ผ่านสถานีที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง ธุรกิจขนส่งและขนถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจร้านกาแฟในสถานีบริการน้ำมัน PT ภายใต้ชื่อร้าน PT Mart, Max Mart และกาแฟพันธุ์ไทย ธุรกิจจำหน่ายสินค้าและการให้บริการอื่น เช่น ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นเครื่องยนต์เครื่องหมายการค้า Castrol และให้บริการรับฝากน้ำมันให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่น รวมถึงให้เช่าพื้นที่ภายในสถานีบริการน้ำมันที่บริษัทเป็นเจ้าของ