“เรือยอชต์พัทยา”ปลุกท่องเที่ยวแสนล้านคึก ลุยบิ๊กอีเวนต์ดันขึ้นแท่นฮับท่องอ่าวไทย

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559

“เรือยอชต์พัทยา”ปลุกท่องเที่ยวแสนล้านคึก ลุยบิ๊กอีเวนต์ดันขึ้นแท่นฮับท่องอ่าวไทย


                 นางมนทิรา เชิดชู นายด่านศุลกากรมาบตาพุด กล่าวว่า ในอดีตเรือต่างชาติที่เข้ามาที่น่านน้ำพัทยาได้รับอนุญาตให้แวะพักจอดในประเทศได้เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น แต่ปัจจุบันกรมศุลกากรได้มีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน โดยเรือต่างชาติที่เข้ามาจะต้องมีการทำพิธีการศุลกากร สำหรับเรือสำราญและกีฬาซึ่งจะอนุญาตให้เรืออยู่ในเมืองไทยได้ตามร้องขอและสูงสุด 6 เดือนต่อครั้ง และหลังจากนั้นสามารถต่ออายุได้อีก โดยต้องมีการแจ้งเหตุผล เช่น อยู่เพื่อซ่อมแซมเรือ หรือต้องการท่องเที่ยวต่อ แต่จะต้องมีที่จอดที่ชัดเจน อาทิ จอดในมารีนา   

                ส่งผลให้พัทยากลายเป็นฮับของการท่องเที่ยวทางทะเล และมีความพร้อมที่จะต้อนรับเรือยอชต์และซูเปอร์ยอชต์จากนานาประเทศมากกว่า 1 พันลำเป็นประจำทุกปีในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้การท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี

               ด้าน ดร.ธีระชัย พิพิธศุภผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า โอเชี่ยน มารีน่า ก่อตั้งมาแล้วเป็นเวลา 23 ปี โดยจับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบเรือยอชต์ เราเป็นท่าจอดเรือยอชต์มาตรฐานสากลแห่งแรกของประเทศไทยที่ให้บริการด้านเรืออย่างครบวงจร และมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

                เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาธุรกิจของเรือยอชต์ได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากทางกรมศุลกากรได้ปรับปรุงกฎระเบียบใหม่ขยายเวลาการแวะพักของเรือยอชต์ต่างชาติที่มาเยือนในบริเวณน่านน้ำอ่าวไทยได้ยาวนานขึ้น รวมทั้งกฎระเบียบในการดำเนินการต่างๆ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เรามองว่าภาพรวมธุรกิจการท่องเที่ยวทะเลอ่าวไทยนับตั้งแต่บัดนี้จนอีก 5-10 ปีข้างหน้า จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นนัยยะ โดยเฉพาะการเช่าเรือยอชต์ท่องเที่ยวที่กำลังบูมมากในปัจจุบัน จากนักท่องเที่ยวชาวไทยเองและชาวต่างชาติ  ที่เป็นกลุ่มคนอายุราว 30-50 ปี ที่ให้ความสนใจเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาแบ่งสัดส่วนเป็นชาวจีน ประมาณ 30% ชาวเกาหลี ประมาณ 30% และชาวรัสเซีย/ยุโรป/ไทย รวมกันประมาณ 20% ด้วยจุดเด่นของเมืองพัทยาที่เป็นเมืองฮับของการท่องเที่ยวทางทะเล มีความงดงามที่เหมาะกับการล่องเรือของท้องทะเลอ่าวไทย ซึ่งมีเกาะต่างๆ จำนวนมากถึง 187 เกาะ โดยมี 43 เกาะที่สามารถนั่งเรือจากโอเชี่ยน มารีน่า ไปถึงได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ซึ่งการเช่าเรือใน 1ปี โดยมีนักท่องเที่ยวใช้การท่องเที่ยวโดยเรือยอชต์ในทะเลอ่าวไทยต่อปีตกอยู่ประมาณ 3-5 แสนคน ซึ่งเราคาดว่าปีหน้าจะมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะต่างชาติ ส่วนนักท่องเที่ยวไทย คาดว่าจะเพิ่มขยายตัวมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจ ผู้บริหารฯ ที่เริ่มมีการรักอิสระในการล่องเรือ

                “เรือยอชต์แต่ละลำที่มาจอดมีมูลค่าประมาณ 20-200 ล้านบาท แต่ละลำจะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงดูแลและอื่นๆ ในช่วงเวลาจอดปีละประมาณ 4-10% ของมูลค่าเรือ ขณะเดียวกัน เมื่อนำเรือแล่นแต่ละครั้งยังทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในด้านต่างๆ ประมาณ 10-20% เช่น ค่ากัปตัน ค่าอาหาร ค่าจัดดอกไม้ประดับเรือ และอื่นๆ จึงถือได้ว่าเรือยอชต์แต่ละลำที่มาจอดมีส่วนช่วยสร้างเงินสะพัดในท้องถิ่นพัทยาเป็นจำนวนหลายสิบล้านบาทต่อปี”

                โดยการแก้ไขกฎระเบียบครั้งนี้จึงถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของพัทยาให้มีการเติบโตสูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเรือทุกประเภทที่จอดในทะเลอ่าวไทยประมาณ 95 % เป็นเรือสัญชาติไทย และส่วนอีก 5% จะเป็นเรือที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งในทุกปีที่จะมีการนำเข้ามาประมาณ 50 ลำ ดังนั้นจากระเบียบใหม่นี้คาดว่าจะส่งผลให้มีเรือยอชต์จากต่างชาติมาจอดเพิ่มขึ้นเป็น 100-150  ลำต่อปี พร้อมสร้างเงินหมุนเวียนในพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียง 500-1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเรือยอชต์ต่างชาติที่มาจอดส่วนใหญ่เป็นของจีน 30-40% เกาหลี 20-30% รัสเซีย 10% ไทย 10% อื่นๆ 10%

                ล่าสุด ปีนี้บริษัทใช้งบฯ ประชาสัมพันธ์ประมาณ 10 ล้านบาท จัดงานแสดงเรือนานาชาติ โอเชี่ยน มารีน่า พัทยา โบ๊ท โชว์ 2016 ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นปีที่ 5 ระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2559 นี้ ในการจัดแสดงเรือยอชต์มูลค่า 20-400 ล้านบาทเป็นจำนวนมากกว่า 20 ลำ พร้อมทั้งมีผู้ประกอบการมาร่วมออกร้านจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ เกี่ยวกับเรือยอชต์ และอื่นๆ รวม 85 บูธ บนผืนน้ำและริมท่าจอดเรือรวมพื้นที่กว่า 2 หมื่น ตร.ม. โดยคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 6.5-8 พันคน คิดเป็นคนไทย 65% ต่างชาติ 35% พร้อมสร้างเงินสะพัดทั้งภายในงานและหลังการจัดงานประมาณ 700-1,000 ล้านบาท โดยแต่ละปีที่ผ่านมามีการซื้อขายเรือยอชต์เฉลี่ยปีละ 7-10 ลำ

            “การจัดงานกลายเป็นอีเวนต์ทางธุรกิจที่สำคัญของวงการธุรกิจท่องเที่ยวทะเลไทย ทั้งได้ต้อนรับผู้เข้าเยี่ยมชมงานจากภายในประเทศเข้าสู่เมืองพัทยา และจนขยายเป็นงานที่ดึงผู้ร่วมงานและนักธุรกิจจากต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในวงการธุรกิจทั้งในไทยและนานาชาติต่างให้ความสำคัญกับการร่วมงานในแต่ละปี ตลอดจนจับตามองตลาดการท่องเที่ยวทางทะเลไทยที่กำลังเติบโต มีศักยภาพและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก และอีกส่วนหนึ่งเป็นการส่งเสริมให้พัทยากลายเป็น “ริเวียราแห่งเอเชีย” เพื่อทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเลของพัทยาและแสดงศักยภาพของอ่าวไทย ให้เป็นฮับท่องเที่ยวทางทะเลแห่งเอเชียใกล้เคียงกับจังหวัดภูเก็ตในอนาคต”

                ด้านนายริโก้ สเตเพิลผู้จัดการฝ่ายการเช่าเรือ (charter Manager)  บริษัท โบ๊ทลากูน ยอร์ชติ้ง จำกัด ผู้จำหน่ายลักชัวรี่ยอชต์ชั้นนำของไทย กล่าวว่า บริษัทเราเป็นบริษัทที่บริการทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรือไม่ว่าจะเป็นการบริการขายเรือมือหนึ่ง หรือมือสองเเละการให้เช่าเรือ ซ่อมเรือ ในการเป็นเหมือนคนที่ช่วยจัดการให้บริการทุกอย่างครบวงจรเกี่ยวกับธุรกิจเรือยอชต์เนื่องจากโดยส่วนมากเจ้าของเรือที่ซื้อเรือมาเเล้ว อาจจะต้องการจ้างกัปตันดูเเลเรือ และในเรื่องการเตรียมอาหารการกิน อุปกรณ์ที่พักผ่อนหลับนอนในเรือ บริษัทเราก็จะหาทีมงานคนดูแลอย่าง เชฟและโฮสเตสแต่ละคนไว้ในการช่วยดูเเลตรงนี้ด้วย ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่นิยมสนใจในการซื้อเรือจากบริษัทเราเพื่อใช้ไว้ในการท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจที่มีธุรกิจอยู่สิงคโปร์ ฮ่องกง พักอยู่ภูเก็ตหรือพัทยา เป็นกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์ ชอบอยู่กับน้ำ ชอบใช้เวลาอยู่กับครอบครัวบนเรือ โดยปัจจุบันคนไทยเองเริ่มหันมาสนใจในการลงทุนซื้อเรือทั้งลำเล็กและลำใหญ่ในการนำไปท่องเที่ยวเองหรือไว้ให้เช่า เป็นต้น โดยปัจจุบันราคาเรือยอชต์นั้นจะแบ่งเป็น เรือลำเล็กมือหนึ่ง ราคาประมาณ 20 ล้านบาท และถ้าเป็นเรือมือสองราว 10 ล้านบาทขึ้นไป และคนที่ซื้อเรือไปส่วนใหญ่พอจะซื้อเรือไปแล้วไว้เพื่อให้ตัวเองได้นำไปใช้ท่องเที่ยวเองด้วยแต่หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้เช่าต่อกว่า 40% 

                สำหรับบริษัทเราเองได้นำเรือยอชต์นำมาโชว์ในงานครั้งนี้ด้วย แต่เรือที่เรานำมาโชว์เราไม่ได้นำมาขายโดยตรง เพียงนำมาโชว์เพื่อให้คนที่เดินทางมาเข้าชมได้ลองมาดู สัมผัส ได้สอบถามพูดคุยก่อนการตัดสินใจซื้อ หรืออาจจะเป็นคนที่สนใจอยากจะมาเช่าเรือกับเรามากกว่า ซึ่งงานนี้เราคาดว่าจะมีลูกค้าที่สนใจมาเช่าเรือกับบริษัทเราเพื่อไปท่องเที่ยวราว 5-8 เที่ยว ซึ่งอัตราเค่าเช่าเรือยอชต์เที่ยวในพัทยามีราคาตั้งเเต่ 30,000–300,000 (ต่อลำ/ต่อวัน) โดยบริษัทมียอดเช่าเติบโตจากปีที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า และปีหน้า 2560เราคาดว่าตลาดเรือยอชต์จะยิ่งเติบโตได้อย่างเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอันเนื่องมาจากการ การแก้ไขกฎระเบียบทางกรมศุลกากรยึดเวลาการแวะพักของเรือยอชต์ต่างชาติให้นานขึ้น

 

 

 



บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม โทร : 0893284192 , ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ