“ริชไทม์ เน็ตเวิร์ค” กาแฟแบรนด์ “สะบายดี คอฟฟี่” ปลื้มธุรกิจครบ 2 ปี ตอบรับ ดีเกินคาด ลั่น ส่งสินค้าตีตลาดลาวยอดสะบั้น ชูแผนปี 60 วางกลยุทธ์รอบทิศทางสร้างการรับรู้ และเดินหน้าเขย่าตลาดใหม่ประเทศเวียดนามและพม่า โฟกัสสื่อสื่อทีวี-นิตยสาร พร้อมประกาศปรับทัพธุรกิจจากขายตรงสู่ค้าส่งเต็มรูปแบบ
นายใจกล้า กาดำดวน ประธานผู้ก่อตั้ง บริษัท ริชไทม์ เน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ริชไทม์ เน็ตเวิร์คได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 2 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลิตภัณฑ์เด่นของเราได้แก่ กาแฟ “สะบายดี คอฟฟี่” และล่าสุด ได้เข็นผลิตภัณฑ์ใหม่คือกาแฟ “สะบายดี เอสเพรสโซ่” เข้ามาเสริมทัพอีกหนึ่งรายการในการทำธุรกิจ โดยในการทำตลาดช่วงแรกของบริษัทฯ นั้นเป็นในลักษณะของธุรกิจขายตรง จนกระทั่งต่อมาบริษัทฯ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนธุรกิจใหม่มาเป็นค้าส่งแทน เหตุผลเพราะทางรัฐบาลใหม่ของสปป.ลาว มีนโยบายใหม่ที่จะไม่สนับสนุนในเรื่องของธุรกิจเครือข่ายที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในสปป.ลาว ด้วยเหตุผลที่ว่าคนลาวนั้นถูกธุรกิจมันนี่เกมส์จากเมืองไทยมาหลอกเยอะทำให้รัฐบาลใหม่ของสปป.ลาวจึงค่อนข้างน้นหนักในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในช่วงเริ่มต้นธุรกิจในรูปแบบขายตรงนั้น ต้องยอมรับว่าบริษัทฯ ประสบความสำเร็จพอสมควร แต่สิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นปัญหาอย่างมากสำหรับการทำธุรกิจขายตรง คือ ขายได้เท่าไหร่ เงินไม่สามารถที่จะจ่ายได้ เหตุเพราะต้องเตรียมเงินไว้เพื่อสำรองจ่ายค่าคอมมิชชั่น ซึ่งมองว่ายิ่งบริษัทฯ ขายเยอะ บริษัทฯ ก็จะขาดทุนเยอะ ด้วยเหตุนี้เองทำให้บริษัทฯ จึงได้หาทางออก ด้วยการปรับเปลี่ยนจากธุรกิจขายตรง มาเป็นธุรกิจค้าส่งแทน ซึ่งหลังจากปรับธุรกิจมาเป็นค้าส่งส่งผลให้จากภาวะที่บริษัทฯ ติดลบจากการทำขายตรงประมาณ 1 ปีครึ่ง พอมาเป็นค้าส่ง บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้
ที่ผ่านมาบริษัทได้ใช้กลยุทธ์ในช่วงที่ปรับเข้าสู่โหมดธุรกิจค้าส่งนั้น คือ กลยุทธ์ 5 (ช) ประกอบด้วย 1.ชง บริษัทฯ จะสอนวิธีการชงกาแฟอย่างไรให้อร่อย 2.ชิม แนะวิธีการชิมอย่างไรให้รู้ถึงรสชติของตัวกาแฟ 3.เชียร์ โดยการทำอย่างไรถึงจะปิดบิล 1 ลังจากลูกค้าได้ 4.แช๊ะ โดยการถ่ายรูปอย่างไรในการที่จะโพสต์เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้า และ 5.แชร์ บริษัทจะสอนวิธีการแชร์อย่างไรให้คนเห็น โดยกลยุทธ์ทั้ง 5 ข้อนี้จะใช้ในการออกบู๊ธตามจุดต่างๆ
นอจากการ ใช้กลยุทธ์ 5 ข้อดังกล่าวนี้แล้ว อีกหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญ ในการทำธุรกิจเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงแบรนด์ “สะบายดี คอฟฟี่” ให้มากขึ้นนั้น คือ ในเรื่องของสื่อโฆษณา โดยบริษัทฯ ได้มีการซื้อเวลาคลื่นวิทยุต่างๆ ในพื้นที่สปป.ลาว ในการสร้างการรับรู้ในช่วงแรกต้น ซึ่งผลปรากฎว่าได้ผลในระดับหนึ่งคนเริ่มรู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังมีแผนที่จะซื้อรายการทีวี เป็นรายการเพลงที่เป็นในส่วนของสินค้ากาแฟ “สะบายดี เอสเพรสโซ่” โดยในปี 2560 นี้บริษัทฯ ได้เตรียมที่จะตั้งงบไว้พอสมควรในส่วนของรายการทีวีในสปป.ลาว และมีแผนที่จะลงรายการทีวีในไทยเพิ่มเติมด้วย
อีกทั้ง ทางบริษัทฯ ได้มีคอนแทคกับนิตยสาร UPDATE นิตยสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน สปป.ลาว ตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2560 เป็นต้นไป โดยจะตีพิมพ์จำนวน 30,000 เล่ม/เดือน แบ่งเป็นจำหน่าย 10,000 เล่ม และอีก 20,000 เล่ม ส่งให้กับบริษัทต่างๆ ทั่วประเทศลาวทั้งหมด
นายใจกล้า กาดำดวน กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2560 นั้น บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยที่มีบริษัทแม่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี ที่ยังไม่ได้มีการทำตลาดเลย โดยในปี 2560 นี้ บริษัทฯ มีแผนที่จะบุกตลาดในเมืองไทยมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีแผนที่จะเข้าไปเจาะตลาดในประเทศเวียดนามและพม่าด้วยเช่นกัน โดยเราจะเข้าไปในลักษณะของค้าส่ง และล่าสุดบริษัทฯ มีแผนที่จะผลิตกาแฟกระป๋องภายใต้แบรนด์ “สะบายดี คอฟฟี่” และ “สะบายดี เอสเพรสโซ่” ในลำดับต่อไป