“แอมเวย์” ประกาศความสำเร็จผลประกอบการไตรมาสแรก ปี 2560 เติบโตทุบสถิติสูงสุดถึง 40% ส่งผลนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินั่มซึ่งเป็นผู้นำองค์กรนักธุรกิจพุ่งสูงถึง 6% สานต่อกลยุทธ์ “แอมเวย์เน็กซ์ (AmwayNEXT)” พร้อมปรับภาพลักษณ์แบรนด์ตามบริษัทแม่ ขยายฐานสู่นักธุรกิจขายตรงคนรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ Young and Active ล่าสุดทุ่มงบกว่า 360 ล้านบาท จัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ให้นักธุรกิจแอมเวย์ฉลองโอกาสฉลอง 30 ปีนี้ ตั้งเป้าอนาคตมีนักธุรกิจแอมเวย์รุ่นใหม่เพิ่ม 50% 

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอมเวย์ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 30 ปีในปีนี้ โดยความสำเร็จที่ผ่านมาเกิดจากแผนการทำธุรกิจแบบรอบด้าน ที่เน้นสร้างประสบการณ์ตรงกับแบรนด์ ผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ผู้บริโภคเฉพาะด้านอย่างแท้จริง และสำหรับปีนี้บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการปรับตัวตามนโยบายแอมเวย์ทั่วโลก โดยในประเทศไทยเราได้แบ่งเป็น 3 เฟส ภายในระยะเวลา 5 ปี ได้แก่ 1.การปรับภาพลักษณ์ 2.การพัฒนาสินค้า 3.พัฒนาระบบตอบแทน เป็นไปตามกลยุทธ์ “แอมเวย์เน็กซ์ (AmwayNEXT)” และแผนการทำธุรกิจแบบรอบด้าน (Integrated Business Plan) ที่เน้นสร้างประสบการณ์ตรงกับแบรนด์

โดยขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในเฟสแรก คือการปรับภาพลักษณ์ให้แอมเวย์เป็นขายตรงที่ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น ภายใต้คอนเซปต์  Young and Active จากเดิมที่แบ่งเป็นยุคเจเนอเรชั่น แต่ในภาพลักษณ์ใหม่นี้จะเน้นที่อายุไม่ถึง 33 ปี ซึ่งปัจจุบันเรามีนักธุรกิจรุ่นใหม่ประมาณ 1 ใน 3 ของทั้งหมด และเราคาดว่าจะเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาคนรุ่นใหม่ รวมทั้งนักศึกษาให้ความสนใจและเชื่อถือธุรกิจขายตรงมากขึ้น มีการสมัครเป็นนักธุรกิจแอมเวย์มากถึง 40% จากเดิมที่จะเป็นคนกลุ่มมีอายุเป็นนักธุรกิจเป็นหลัก

นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้ทำการสนับสนุนโอกาสทางธุรกิจในทุกด้านเพื่อให้นักธุรกิจแอมเวย์ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น จนทำให้ปัจจุบันเรามีจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินั่มซึ่งเป็นผู้นำองค์กรนักธุรกิจสูงขึ้นถึง 6% และตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ระดับแพลตินั่มให้โตขึ้นอีก 2 เท่าในอีก 8 ปีข้างหน้า สะท้อนถึงความสำเร็จและความเชื่อมั่น การสร้างรากฐานที่มั่นคงยืนยาวส่งต่อเป็นมรดกตกทอดได้  ส่งผลให้ผลประกอบการของแอมเวย์ไตรมาสแรกปีนี้ (2559) โตประมาณ 10% ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ที่ 5%  หากมองทั้งปีเมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่านมาที่ทรงตัวมาตลอดหรือโตแค่ 1-2% เท่านั้น หรือบางปีก็ติดลบ จากในอดีตที่เคยโตถึง 12% มาแล้ว โดยสัดส่วนการขายมาจากครึ่งปีแรก 40% และครึ่งปีหลัง 60%

“สำหรับการเติบโตในไตรมาสแรกเกิดจากผลพวงของโปรแกรมควบคุมน้ำหนักเฉพาะบุคคล บอดี้คีย์ บาย นิวทริไลท์ รวมถึงการเปิดตัวน้องใหม่ นิวทริไลท์ ไฟโตพาวเดอร์ เครื่องดื่มให้ความสดชื่น ส่งผลให้แอมเวย์สามารถทำยอดขายในไตรมาสแรกของปี 2560 เติบโตถึง 40% ทุบสถิติสูงสุด”

อย่างไรก็ตาม บริษัทก็พยายามใช้เทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานการทำงานมากขึ้น เพื่อรองรับกับเทรนด์ที่เปลี่ยนไป เพื่อทำให้ช่องทางเข้าถึงผู้บริโภคง่ายขึ้น แต่ไม่ได้เป็นช่องทางที่จะเพิ่มยอดขายแต่อย่างใด ซึ่งแอมเวย์ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าคุณภาพ และพัฒนาโปรแกรมตอบแทนนักธุรกิจให้ดีขึ้นตลอดเวลา และมั่นใจว่าตลาดขายตรงมีเอกลักษณ์ที่ต้องแนะนำและทดลองสินค้าต่อหน้า หาคนรับผิดชอบในการติดต่อ จึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักจากการเติบโตของชอปปิ้งออนไลน์

ทั้งนี้ ในโอกาสฉลอง 30 ปีนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมสร้างประสบการณ์ให้นักธุรกิจแอมเวย์ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 360 ล้านบาท จัดทริปท่องเที่ยวระดับวีไอพีบนเมดิเตอร์เรเนียนครูซกับ 6 เมืองสวยของยุโรป ได้แก่ บาร์เซโลนา โพรวองซ์ นีซ ฟลอเรนซ์ โรม และเนเปิลส์ ในเดือนพ.ค.นี้ ด้านการตอบแทนสังคมแอมเวย์ให้ความสำคัญและดำเนินโครงการเพื่อเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และในโอกาสครบรอบ 30 ปี แอมเวย์ได้จัดกิจกรรมครั้งใหญ่คือ “แอมเวย์…จักรยานเพื่อน้อง” มอบจักรยาน 3,000 คัน รวมงบประมาณกิจกรรมทั้งสิ้น 10 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศได้มีพาหนะในการเดินทางไปโรงเรียน โดยจะเปิดรับบริจาคสมทบจากผู้มีจิตศรัทธาจนถึง 31 พ.ค. และยกคาราวานลงพื้นที่ส่งมอบจักรยานในเดือนมิ.ย.นี้