นายสุรชัย กำพลานนท์วัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ผู้ประกอบการทุกคนอยากผลิตสินค้าให้ดีมีมาตรฐาน แต่เอาเข้าจริงเขาไม่มีทางรู้เลยว่าวัตถุดิบและกระบวนการผลิตสินค้ามีความสะอาด ปลอดภัย ได้สารพิษปนเปื้อนหรือไม่ จะไปใช้บริการห้องแล็บก็เป็นเรื่องยาก ค่าใช้จ่ายสูงพอควร ทำให้ขาดโอกาสในการพัฒนาต่อยอดให้สินค้าเป็นที่ยอมรับของตลาดได้ เซ็นทรัลแล็บโฉมใหม่จึงอาสาประชารัฐ ขอนำแล็บแห่งนี้มาให้บริการกับผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ
นอกเหนือจากพันธกิจเดิมที่ทำมานานกว่า 13 ปีมุ่งช่วยผู้ส่งออกเป็นหลัก เราจะแบ่งศักยภาพส่วนหนึ่งมาให้บริการในรูปแบบแล็บประชารัฐ คือทำงานร่วมมือกับหน่วยงานหลักที่ดูแลกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่น กลุ่มธกส. ที่ดูแลกลุ่มเกษตรกร สำนักงานกองทุนหมู่บ้านที่ดูแลวิสาหกิจชุมชน กรมการพัฒนาชุมชนที่ดูแลกลุ่มโอทอป กระทรวงอุตสาหกรรมและสสว.ที่ดูแลกลุ่มเอสเอ็มอี รูปแบบจะทำเป็นโครงการที่ช่วยครบวงจรไม่ต่างคนต่างทำ”
งานแรกของแล็บประชารัฐคือเข้าไปช่วยตรวจและวิเคราะห์ผลให้กับผู้ประกอบการ 5 จังหวัดชายแดนใต้โดยร่วมมือกับศอ.บต. ที่จะคัดเลือกผู้ประกอบการสินค้าอาหารเป็นกลุ่มแรก ซึ่งค่าบริการตรวจทุกรายจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสสว.รายละ 5 พันบาท ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเมื่อได้รับผลตรวจแล้วก็จะทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้นและมีโอกาสขายสินค้าได้แพร่หลายมากขึ้น”
“ผมจะใช้แล็บมาตรฐานสากลที่รัฐบาลลงทุนเกือบ 2 พันล้านแห่งนี้ลงไปช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ ในต่างจังหวัดให้มากที่สุดเพื่อสนับสนุนกระตุ้นให้เกิดเศรษฐกิจท้องถิ่น แล็บนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นแล็บประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนนโยบายประชารัฐของรัฐบาลเต็มรูปแบบ” นายสุรชัย กล่าวในที่สุด