พระกริ่งคลองตะเคียน (3)

วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

พระกริ่งคลองตะเคียน (3)


ตอนที่แล้วได้เรียนให้ท่านผู้มีเกียรติได้ทราบถึงประวัติความเป็นมารูปลักษณ์ และความประณีตพิถีพิถันในการสร้างพระกริ่งคลองตะเคียนไปแล้ว คราวนี้ก็จะได้วิเคราะห์กันถึงผู้สร้างพระกริ่งคลองตะเคียนนี้กันต่อไป
พระกริ่งคลองตะเคียนได้ถูกพบเมื่อประมาณปี พ.ศ.2460 บริเวณคลองตะเคียน แขวงกรุงเก่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้นับว่าเป็นแหล่งที่รุ่งเรืองในด้านวิชาการทหารในสมัยอยุธยา ตอนปลาย นับตั้งแต่สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐเป็นต้นมา จนกระทั่งเสียกรุงให้แก่พม่าใน พ.ศ.2310 วัดประดู่ทรงธรรมที่พระเจ้าอุทุมพรทรงผนวช วัดท่าหอยที่สมเด็จพระสังฆราช สุกไก่ เถื่อน เคยทรงเป็นเจ้าอธิการ ก็อยู่ในบริเวณที่ได้พบพระกริ่งคลองตะเคียนนี้ทั้งสิ้น พระกริ่งคลองตะเคียนที่พบ ก็คงจะต้องเป็นพระที่ได้สร้างในช่วงเวลานี้ ซึ่งเป็นช่วง แห่งเวลาที่มีการรบทัพจับศึก ทั้งภายในและภายนอก การมีเครื่องรางของขลังไว้ประจำตัวของทหารหาญทุกคุน จึงเป็นเรื่องที่จำเป็น เราเห็นได้จากที่พระกริ่งคลองตะเคียน มีการจารอักขระด้วยมือของพระอาจารย์ผู้สร้างเพียงคนเดียว นั่นย่อมแสดงว่าต้องการสร้างให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ทุกชิ้นทุกองค์
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯในสมัยที่ทรงเป็นทหารเอกของกรุงศรีอยุธยา ได้เป็นศิษย์ของเจ้าอธิการสุกแห่งวัดท่าหอย ก็ย่อมแสดงว่า สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ก็ย่อมต้องอยู่ในบริเวณที่เรียกว่าคลองตะเคียนนี้ ในช่วงเวลาทีมีการสร้างพระด้วย เพราะพระกริ่งคลองตะเคียนทำเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินก็ต้องนิมนต์พระอาจารย์ที่เก่งที่สุดในสมัยนั้นมาสร้างให้เหล่าทหารหาญ ในเมื่อรัชกาลที่ 1 ทรงเป็นศิษย์ของเจ้าอธิการสุกแล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสิน พระยาพิชัยดาบหัก ก็ย่อมเป็นศิษย์ด้วย ดังนั้นเราก็พอจะมองออกแล้วว่า สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่ เถื่อน ในขณะนั้นก็ย่อมที่จะมีบทบาทที่สำคัญอยู่ด้วยพระองค์หนึ่ง
ผู้เขียนได้ลองเทียบอายุของ สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน สมเด็จพระเจ้าตากสิน และรัชกาลที่ 1 ว่าขณะนั้น พระองค์จะมีพระชันษาเป็นเท่าไรบ้าง ตอนที่เสียกรุงครั้งที่สองเมื่อ พ.ศ.2310 ก็ปรากฏว่า สมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน ประสูติเมื่อ พ.ศ.2276 มีพระชันษา 34 พรรษา สมเด็จพระเจ้าตากสิน ประสูติเมื่อ พ.ศ.2277 มีพระชันษา 33 พรรษา และ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ประสูติเมื่อ พ.ศ.2279 มีพระชันษา 31 พรรษา ซึ่งจะเห็นว่า พระชันษาของทุกพระองค์ กำลังอยู่ในช่วงพอเหมาะที่จะทำการใหญ่ได้ และสอดคล้องกับการเป็นอาจารย์ เป็นศิษย์กันได้ และมีข้อมูลอีกอย่างหนึ่งก็คือ พระสมเด็จอรหังที่สมเด็จ พระสังฆราช (สุก) ได้สร้างในคราวที่ไปครองวัดมหาธาตุ ก็มีการจารอักขระที่ด้าน หลังพระทุกองค์เช่นกัน
คงไม่มีใครมีหลักฐานพอที่จะสามารถสรุปได้ว่า ใครเป็นผู้สร้าง พระกริ่งคลองตะเคียน ผู้เขียนก็สามารถทำได้แค่เอาข้อมูลต่างๆที่ค้นคว้าได้มา และพอจะสรุปได้ว่าผู้สร้างพระกริ่งคลองตะเคียนจะต้องเป็นพระเกจิอาจารย์ที่เก่งกล้าสามารถที่สุดในช่วงนั้น จะเป็นสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อนหรือไม่ ก็ คงไม่สำคัญเท่ากับ พระกริ่งคลองตะเคียนที่เป็นผลลัพธ์แห่งการสร้างพระเครื่องที่มีคุณวิเศษยิ่งออกมา ซึ่งนับเป็นของวิเศษโดยแท้ และหากจะถามว่า พระเครื่ององค์แรกของประเทศไทยคือพระอะไร พระกริ่งคลองตะเคียนก็พอที่จะเป็นพระในคำตอบได้
อดุลย์ ฉายอรุณ : โทร.08-8696-5994


บริษัท สมาร์ท โกลด์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด SMART GOLD MEDIA GROUP CO.,LTD. ติดต่อสอบถาม ID Line : @siamturakij และ ฝ่ายโฆษณา siamturakijadvertising@gmail.com
© 2013 สยามธุรกิจ