 
         
    	พื้นที่โดยรอบศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีเกษตรกรที่ประกอบอาชีพทำประมงอาศัยอยู่จำนวนมาก และยึดอาชีพการเลี้ยงกุ้งขาวมาตั้งแต่ปี 2530 จนรวมกลุ่มกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์ประมงคุ้งกระเบน จำกัด ขึ้น เพื่อดูแลส่งเสริมอาชีพการทำประมงให้กับเกษตรกรในพื้นที่ที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ 212 ครอบครัว บนพื้นที่ 1,084 ไร่
ที่ผ่านมาเกษตรกรยังมีขาดองค์ความรู้ในการเลี้ยงกุ้งที่ได้มาตรฐาน มีการปล่อยน้ำและเลนลงในลำคลองทำให้สภาวะแวดล้อมเสื่อมลง น้ำด้อยคุณภาพ จนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสต่างๆ และในปี 2558 เกษตรกรประสบปัญหาโรคกุ้งตายด่วน (EMS) ผลผลิตเสียหายเป็นจำนวนมาก สมาชิกสหกรณ์ประสบภาวะขาดทุนจากการเลี้ยงกุ้ง บางรายต้องหยุดเลี้ยง พักบ่อและปล่อยบ่อร้าง ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้เงินกู้กับสหกรณ์ได้ตามกำหนด ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของสหกรณ ไม่สามารถปิดบัญชีได้ จนสหกรณ์เกือบจะต้องยุติการดำเนินงานลง
กระทั่งปี 2559 มีโครงการส่งเสริมการเกษตรแปลงใหญ่ประชารัฐ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลเข้ามาบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและผลกระทบที่เกษตรกรได้รับจากโรคตายด่วนในกุ้งโดยประสานความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมประมง องค์การสะพานปลา บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) และหอการค้าไทย
ปัจจุบัน สมาชิกสหกรณ์ 24 ราย สมัครใจเข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่ประชารัฐเกษตรสมัยใหม่ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการรุ่นที่ 1 มีสมาชิกนำร่องจำนวน 2 ราย ได้แก่ นายดำรง เสนาะสรรพ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ และนายสิงหา สวัสดิภูมิ สมาชิกสหกรณ์ฯ ศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงกุ้งตามเทคนิค 3 สะอาด คือ น้ำสะอาด ลูกกุ้งสะอาดปลอดโรค และพื้นบ่อสะอาด ใช้เวลาปรับสภาพบ่อเลี้ยงกุ้ง 3 เดือน จนกระทั่งมั่นใจว่ามีความสะอาดปลอดเชื้อโรค จึงนำลูกกุ้งอนุบาลลงในบ่อ บ่อละ 500,000 ตัว
ผลสำเร็จจากการเลี้ยงกุ้งด้วยเทคนิค 3 สะอาด ส่งผลทำให้ลดต้นทุนได้กว่า 24% ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นจาก 1,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นเป็น 3,700-5,100 กิโลกรัมต่อไร่ อัตราการเจริญเติบโตของกุ้งอยู่ในเกณฑ์ดีและมีอัตราการรอดเกินกว่า 90% ทำให้เกษตรกรมีรายได้ สามารถคืนทุนได้ตั้งแต่การเลี้ยงในรอบแรก และยังมีเงินที่เหลือส่วนหนึ่งไปชำระหนี้คืนให้กับสหกรณ์ ทำให้สมาชิกสหกรณ์มองเห็นโอกาสที่จะบรรเทาความเสียหาย มีรายได้มาปลดหนี้ที่เกิดจากการระบาดของโรคกุ้งตายด่วน ตั้งแต่ปี 2558 ได้สำเร็จ โดยทุกคนหันกลับมาร่วมแรงร่วมใจกันทำแปลงใหญ่ประมงประชารัฐอย่างจริงจัง เพื่อพลิกฟื้นอาชีพการเลี้ยงกุ้งของเกษตรกรในพื้นที่อ่าวคุ้งกระเบนให้กลับคืนมาอีกครั้ง
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานในระยะต่อไป สหกรณ์จะมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผลผลิต ส่งเสริมเกษตรกรสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้มีระบบมาตรฐาน GAP ทั้งหมด และถ่ายทอดความรู้เรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม การจัดทำบัญชีครัวเรือน บัญชีต้นทุน และกำหนดระเบียบสหกรณ์ เพื่อจัดตั้งกองทุนจัดการความเสี่ยงผลผลิตทางการเกษตรและรักษาสิ่งแวดล้อม ไว้ช่วยเหลือสมาชิกในยามที่ราคากุ้งตกต่ำ หรือจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการปรับปรุงบ่อ การบำรุงรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เลี้ยงกุ้งที่ยั่งยืน
.jpg)
