“โอทอป” หรือ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” ในยุคนี้สมัยนี้ คงหนีไม่พ้นการก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 แม้ดูเหมือนจะขัดแย้งกัน เพราะสินค้าโอทอปส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าที่ผลิตเองจากชุมชนใช้แรงงานคนเหมือนยุค 2.0 แต่การพัฒนาในอนาคตต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์
ที่ผ่านมากรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้พยายามปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้สอดรับกับนโยบาย 4.0 หลายด้าน จนในที่สุดแนวคิดการพัฒนาสินค้าโอทอปให้เข้ากับยุคนี้ จึงส่งผ่านโปรเจค
“โอทอปไลฟ์สไตล์”
อะไรคือ“โอทอปไลฟ์สไตล์” ที่ฟังดูเก๋ไก๋ ไฮโซ ห่างใกล้จากชุมชน เรื่องนี้ “อภิชาติ โตดิลกเวชช์” อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน บอกว่า แนวคิดนี้เกิดจากความร่วมมือของกรมฯกับภาคเอกชน โดยปรับเปลี่ยนศูนย์โอทอปเดิมให้มีความทันสมัยมากขึ้น นำแนวคิดมาจาก “ไลฟ์สไตล์คาเฟ่” ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยม
โดยการนำสินค้าหลายประเภทมารวมไว้ในร้านเดียว ทั้งแฟชั่น เครื่องแต่งกาย ของใช้ในชีวิตประจำวัน เฟอร์นิเจอร์ อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จึงตอบโจทย์การช็อปปิ้งของชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี
เมื่อเมืองไทยนำมาใช้ภายใต้ชื่อ “โอทอปไลฟ์สไตล์” จึงเป็นร้านขายสินค้าโอทอปรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้คนในปัจจุบัน โดยภายในอาจมีร้านกาแฟ ร้านขนม หรือร้านนวดสปา ผสมผสานกันอยู่ในที่เดียว
“โอทอปไลฟ์สไตล์ จึงสามารถดึงดูดลูกค้าด้วยความแปลกใหม่ ทั้งสินค้าในร้านที่ปรับเปลี่ยนของฝาก 50 เปอร์เซ็นต์ ขนม 50 เปอร์เซ็นต์ แตกต่างจากร้านโอทอปในอดีตที่มีของที่ระลึกเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น” อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน กล่าว
ปัจจุบันแนวคิดนี้ ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาสู่การปฏิบัติจริงแล้ว โดยมีตัวผู้ประกอบการในจังหวัดกาญจนบุรี ลงมือทำโมเดลนี้ขึ้นมา โดยต้นแบบตั้งอยู่ที่น้ำตกเอราวัณ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ภายใต้ชื่อ OTOP Lifestyle @ เอราวัณ
“สหัสนัย ยืนยงค์” ประธานเทรดเดอร์โอทอป จ.กาญจนบุรี หัวเรือใหญ่ที่ขับเคลื่อนโครงการนี้ บอกว่า หลังจากเปิดร้านโอทอปไลฟ์สไตล์ที่น้ำตกเอราวัณ ได้ไม่นาน ได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ชอบรูปแบบการตกแต่งร้าน บรรยากาศในร้าน ที่สำคัญเลือกซื้อสินค้าโอทอปจากทั่วประเทศ นอกจากนี้ หลังการปรับปรุงร้านจากเดิมเป็นร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปเพียงอย่างเดียวมาเป็นโอทอปไลฟ์สไตล์ ยอดขายก็เพิ่มตามมาด้วย จากรายได้หลักพันต่อวันเป็นหลักหมื่น เห็นความแตกต่างอย่างได้ชัดจากโมเดลนี้ทำให้กรมพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้โอทอปเทรดเดอร์กาญจนบุรี เป็นต้นแบบและเป็นพี่เลี้ยงให้กับโอทอปเทรดเดอร์จังหวัดอื่นๆที่ต้องการขยายร้านโอทอปไลฟ์สไตล์
“ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่จังหวัดละ 5 สาขา ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ก็จะได้ 385 สาขาทั่วประเทศ ในรูปแบบแฟรนไชส์ โอทอปไลฟสไตล์ ที่เทรดเดอร์โอทอปกาญจนบุรีออกแบบให้ ภายใต้การลงทุนขนาดร้าน 3 ระดับ คือ เล็ก(S) กลาง(M) ใหญ่(L) ในร้านเริ่มต้นที่ 6 แสนบาทจนถึง 1.95 ล้าน”ประธานเทรดเดอร์โอทอปกาญจนบุรี กล่าว แม้ร้านโอทอปไลฟ์สไตล์ปัจจุบันอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ในช่วงงานโอทอปซิ้ตี้ ช่วงกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มียอดจอดแฟรนไชส์แล้ว 101 ราย เรียกได้ว่ากระแสตอบรับเกินคาดสำหรับจังหวัดอื่นที่สนใจจะเปิดร้านโอทอปไลฟ์สไตล์ จะมีทีมงานเข้าไปช่วยออกแบบร้าน วางระบบบริหารจัดการร้าน ฝึกอบรพนักงานประจำร้านให้ ส่วนการสต๊อกสินค้านั้นใช้พื้นที่ศาสากลางจังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นที่สต๊อกสินค้าจากชุมชนที่ส่งเข้ามา เรียกว่า ระบบนี้ตอบโจทย์ยุค 4.0 จริงๆ
สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดกับคุณสหัสนัย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 081-847-4921 034 – 574-056
