หากพูดถึง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี หลายคนคงนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของกาญจบุรี ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกเอราวัณ น้ำตกแม่ขมิ้น หรือ เขื่อนศรีนครินทร์ แต่มีน้อยคนนักจะทราบว่า ที่นี้มี “ทุเรียน” เช่นเดียวกับ ทองผาภูมิ
ว่าไปแล้ว “ทุเรียนศรีสวัสดิ์” ถือเป็นน้องใหม่ของวงการ เพราะมีอายุเพียงสิบปีจากการลองผิดลองถูกของ “รองเหนาะ” หรือ “เสนาะ อุขิตจันทร์” รองนายกอบต.ท่ากระดาน เจ้าของสวนผสมผสานที่นำทุเรียนมาปลูกคนแรกของ อ.ศรีสวัสดิ์
รองเหนาะ กล่าวว่า แรกเริ่มเดิมทีก็ปลูกพื้นที่ไร่ทั้งมัน ทั้งข้าวโพด แต่ก็ต้องเลิกเพราะราคาไม่ดี แถมยังเป็นหนี้อีก จึงหันมาทำสวนผสมผสาน ที่มีพืชหลายชนิด ก่อนจะทำทุเรียนมาปลูกไว้กิน พอปลูกไว้กินแล้วผลผลิตออกมาเยอะก็แจกบ้าง ขายบ้าง จนในที่สุดก็ตัดสินใจปลูกจริงจัง โดยรุ่นแรกปลูกไปกว่า 100 ต้น บนพื้นที่ 5 ไร่ ซึ่งผลผลิตออกมาเป็นที่ต้องการของตลาด เรียกว่าไม่พอขายเลยทีเดียว
“แต่เมื่อปีที่แล้วฝนตกชุกในพื้นที่ อ.ศรีสวัสดิ์ ทำให้ทุเรียนรากเน่า เสียหายไปกว่า 80 ต้น ทำให้เหลือทุเรียนในสวนเพียง 20 ต้น ผลของการสูญเสียทุเรียนครั้งนี้ทำให้รู้ว่า ทุเรียนไม่ชอบน้ำขัง จึงปรับพื้นที่ปลูก ให้เป็นที่ดอน เพื่อไม่ให้มีน้ำขังแช่ราก ซึ่งอาจสูญเสียต้นทุเรียนเหมือนที่ผ่านมา” รองเหนาะ กล่าว
เมื่อพูดถึงรสชาติทุเรียนศรีสวัสดิ์แล้ว เหล่าบรรดานักชิมทุเรียนต่างบอกว่า ทุเรียนศรีสวัสดิ์มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เนื้อแห้ง มัน กลิ่นไม่ฉุน หวาน ไม่มีรสขมติดลิ้น ที่สำคัญหลายคนที่ได้ชิม ต่างบอกว่า รสชาติดีกว่าพื้นที่ใกล้เคียงที่เคยชิมมา
เรื่องนี้ รองเหนาะ บอกว่า อาจเป็นเพราะพื้นที่ปลูกทุเรียนศรีสวัสดิ์ เป็นพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 700 เมตร จึงทำให้รสชาติทุเรียนแตกต่างทุเรียนที่ปลูกบนพื้นราบ
“การปลูกทุเรียนในช่วงแรก ต้องการร่มเงา ซึ่งพืชที่อยู่ร่วมกับทุเรียนได้ดี คือ กล้วยไข่ หากเป็นกล้วยน้ำหว้า จะไม่ค่อยดีนัก ส่วนเหตุผลที่กล้วยไข่เอื้อประโยชน์ต่อทุเรียนนั้น ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการมารองรับ แต่ว่าผมรับรอง เพราะผมปลูกเอง จึงกล้าการันตีว่า กล้วยหอม ดีต่อทุเรียน” รองเหนาะ กล่าว
สำหรับสวนรองเหนาะ มีการปลูกทุเรียน หมอนทอง ชะนี ก้านยาว และ พวงมณี ซึ่งถือเป็นทุเรียนที่ติดท็อปไฟฟ์ของตลาดทุเรียน เป็นที่ต้องการของตลาด แม้จำนวนจะไม่มาก แต่คุณภาพถือว่าไม่ผิดหวังแน่นอน ส่วนเรื่องราคานั้น ไม่ได้แพงเวอร์ จนจับต้องไม่ได้ แต่เป็นราคาตามท้องตลาดขายกัน กิโลกรัมละ 120 บาท เท่านั้น