กลุ่มโฟรวิงส์ งัดแลนด์แบงก์ผุดโมเดลมิกซ์ยูส –พร้อมบ้านหรู รับซัพลายฝั่งกรุงเทพฯ โซนตะวันออก เดินหน้าซื้อที่ดินตุน100 ไร่ เชียงใหม่ เชียงราย เตรียมบุกหัวเมืองใหญ่
นายบุญฤทธิ์ จิระพจชพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) เปิดเผยว่า บริษัท อยู่ในบริษัทลูกของกลุ่มโฟรวิงส์ ดำเนินธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรมแกรนด์โฟรวิงส์ คอนเวนชั่น ศรีนครินทร์ โรงแรมโฟรวิงส์ สุขุมวิท 26 และโครงการคอนโด เดอะ โฟรวิงส์ เรสซิเดนซ์ ศรีนครินทร์
ล่าสุด ได้ลงทุนพัฒนาโครงการ เดอะ พาร์ค เอเวนิว ไพรเวท เป็นโมเดลมิกซ์ยูสนำร่องที่มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและมีคอมมูนิตี้มอลล์ มูลค่ารวมราว 1,500 ล้านบาท ภายในโครงการเพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่างนอกเหนือจากรูปแบบบ้าน ทำเลที่ตั้ง
โดยบริษัทมีแลนด์แบงก์แปลงใหญ่ในบริเวณย่านกรุงเทพกรีฑาราว 80 ไร่ เมื่อมีการตัดถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ผ่านพื้นที่ทำให้ที่ดินแบ่งเป็น 20 ไร่ และ 50 ไร่ ซึ่งเห็นว่าโครงการถนนมาแน่นอน บริษัทจึงได้ทำการศึกษาถึงรูปแบบการพัฒนาโครงการ ทั้งนี้เนื่องจากการใช้ประโยชน์ที่ดินตามผังเมืองกำหนดเป็นพื้นที่สีเหลือง
ทั้งนี้ราคาที่ดินโซนนี้ ได้มีการปรับขึ้น ต่อเนื่องโดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ย่านนี้ได้ปรับขึ้นมากกว่า 50-100% ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ 1-1.2 แสนบาท/ตารางวา (ตร.ว.) จากเดิมอยู่ที่ราว 6 หมื่นกว่าบาท/ตร.ว. ดังนั้นการพัฒนาจึงต้องเป็นโครงการแนวราบ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม โดยซัพพลายระดับ 20 ล้านบาทขึ้นไปในโซนนี้มีอยู่ไม่ถึง 200 ยูนิต
ด้วยศักยภาพทำเลบริษัทจึงนำที่ดิน 20 ไร่ที่ติดสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา จึงพัฒนาบ้านเดี่ยว 3-4 ชั้น ระดับลักซ์ชัวรี่ เดอะ พาร์ค เอเวนิว ไพรเวท มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ภายใต้แนวคิด The Modern Luxury Tropical Style ด้วย รูปแบบ Modernized Living ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการคัดสรรวัสดุที่เหมาะสมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ตอบรับการใช้ชีวิตของครอบครัวสมัยใหม่ มีจำนวนเพียง 36 หลัง มีแบบบ้าน 3 ขนาด ที่ดินเริ่มต้น 64.7 ตร.ว.ขึ้นไป เนื้อที่ใช้สอยเริ่มต้น 354 ตารางเมตร (ตร.ม.) ราคาขายเริ่มต้น 27 ล้านบาท
ปัจจุบันมียอดขายได้แล้ว 15 หลัง โดยบริษัทเตรียมปรับราคาเฉลี่ยอีก 5% ในเดือน ก.ย.นี้ คาดสิ้นปีนี้จะปิดการขายได้ 80% ทั้งโครงการจะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ในปลายปี 2561 และยังมีที่ดินเหลืออีกประมาณ 7 ไร่ ที่เตรียมจะพัฒนาในเฟสถัดไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการ
นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนาโครงการในพื้นที่ 50 ไร่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตร ซึ่งดำเนินธุรกิจโรงเรียนนานาชาติจากอังกฤษ โดยจะได้ความชัดเจนในปีนี้ หากบรรลุข้อตกลงจะมีการจัดสรรที่ดินให้ทางโรงแรมพัฒนาราว 20 ไร่ ส่วนอีก 30 ไร่บริษัทมีแผนพัฒนาอสังหาฯ เพื่อรองรับ โดยแบ่งเป็น 2 โครงการ มูลค่าการลงทุนราว 1,000 ล้านบาท/โครงการ ในปีหน้า
ขณะที่บริษัทยังมีที่ดินย่านพระราม 9 อีกกว่า 50 ไร่ ซึ่งที่ดินทั้งสองแปลงทางบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อมาพัฒนาโครงการร่วมกัน อีกทั้งยังมีที่ดินที่ จ.เชียงใหม่ และเชียงรายอีกราวกว่า 100 ไร่ ซึ่งจากนี้หากเป็นพื้นที่แปลงใหญ่บริษัทจะหาพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการ โดยรูปแบบคือให้เช่าที่ดินระยะยาวหรือขายที่ดินเพื่อพัฒนา อย่างไรก็ดีบริษัทยังเน้นการสร้างรายได้จากอสังหาฯ เพื่อเช่าราว 80% และอสังหาฯ เพื่อขายราว 20% โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ธุรกิจเครือ โฟรวิงส์กรุ๊ปที่ 2,500 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต อาจจะขยายไปต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ขณะนี้ได้ไปซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย เก็บไว้แล้ว อยู่ในช่วงศึกษาการพัฒนา โครงการอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเป็นแนวราบ ซึ่งอาจเป็นการลงทุนร่วมกับนักธุรกิจท้องถิ่น เพราะเชื่อว่าธุรกิจอสังหาฯ ตามหัวเมืองใหญ่ยังคงเติบโต
อย่างไรก็ตามในส่วนของเดอะพาร์ค คอมมูนิตี้ มอลล์ และดับเบิ้ลยูฟิตเนส ซึ่งเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ขนาดเนื้อที่รวมกว่า 6,000 ตร.ม. ใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้เช่าพื้นที่เต็ม 100% โดยบริษัทมีรายได้จากพื้นที่เช่ากว่า 1 ล้านบาท/เดือน และรายได้จากสปอร์ตคอมเพล็กซ์ราว 2-3 ล้านบาท/เดือน โดยลูกบ้านของโครงการจะได้สิทธิเมมเบอร์ 3 ปีแรกฟรี รวมถึงส่วนลดจากร้านค้าภายในคอมมูนิตี้มอลล์ตั้งแต่ 10-50%
ในส่วนธุรกิจโรงแรมนั้น ปัจจุบันมีจำนวนห้องพักประมาณ 800 ห้อง จาก 2 โรงแรม ซึ่งมีผู้เข้าใช้บริการเฉลี่ย 80-95% โดยบริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจเพิ่มเติม รวมทั้งธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ที่แผนปี 2562 เตรียมปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อปรับห้องให้มีขนาดเล็กลงเหลือ 45-80 ตร.ม. จากเดิม 100-200 ตร.ม. เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่เช่าเป็นรายปี โดยจะเริ่มที่โครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ในสุขุมวิทซอย 3 ใช้งบราว 100 ล้านบาทก่อน จากนั้นจะดำเนินการที่โครงการที่สุขุมวิท 39 ต่อไป