ธุรกิจ "เอเชียน่าแอร์ไลน์" สาย การบินรายใหญ่อันดับ 2 ของเกาหลีใต้ สะเทือน หลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกกระแทกพื้น ทั้งๆ ที่ใช้เวลานานหลาย ปี ในสร้างชื่อเสียง และภาพลักษณ์ ด้าน ความปลอดภัยและคุณภาพ คาดผู้โดย สารลดลง แถมต้องจ่ายประกันอีกอื้อ

จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับสายการบิน "เอเชียน่า แอร์ไลน์" เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่สนามบินซานฟราน ซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ซึ่งทำให้เด็กวัยรุ่นชาวจีน 2 คนเสียชีวิตและมีผู้บาด เจ็บอีก 182 คน จากการที่เครื่องบินตกกระแทกพื้นก่อนถึงรันเวย์ อาจทำลายภาพลักษณ์ดังกล่าวของสายการบิน

ปัจจุบัน สายการบินแห่งชาติของเกาหลีใต้มี 2 ราย ได้แก่ เอเชียน่า แอร์ไลน์ และโคเรียน แอร์ ได้พยายามอย่างหนักในการปรับปรุงเรื่องความปลอดภัย มีการดึงผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามา หลังในช่วงทศวรรษท้ายๆ ของศตวรรษที่ 20 มีผู้เชี่ยวชาญการบินรายหนึ่ง ออก ปากว่า เป็นช่วงเวลาอันเลวร้ายของการบินเกาหลีใต้

จากการตกกระแทกพื้นดังกล่าวถือเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารตกครั้งแรก ของเอเชียน่านับแต่ปี 2536 เป็นต้นมา ขณะที่โคเรียน แอร์ มีอุบัติเหตุเครื่องบินตกและมีผู้เสียชีวิตครั้งล่าสุดเมื่อปี 2540

กัง ดอง จิน นักวิเคราะห์ จากเอช เอ็มซี อินเวสต์เมนท์ ซิเคียวริตีส์ แสดงความเห็นว่า ไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ในเรื่องที่ว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตกข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท และทำให้ความต้องการใช้บริการของสายการบินลดลง

นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่สายการ บินจะต้องจ่ายเงินประกันจำนวนมหาศาล ให้กับผู้โดยสารและสำหรับเครื่องบินก็อาจจะทำให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันเพิ่มขึ้นใน อนาคต รวมถึงมีภาระการเงินเพิ่มมากขึ้นด้วย

ขณะที่ นักวิเคราะห์จากเคดีบี แดวู ซิเคียวริตีส์ "นายเจย์ ริว" ระบุว่า แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุของอุบัติเหตุ แต่การเกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ครั้งแรกในรอบ 20 ปีของบริษัทจะทำให้เกิดความเสียหาย ต่อธุรกิจทั้งในระยะกลางและระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โฆษกเอเชียน่า กล่าว ว่า นายลี คัง กุก นักบินที่ 1 ที่ควบคุมเครื่องบินลำนี้ อยู่ ระหว่างการฝึกบินเที่ยวบินระยะไกล เป็นนักบินประสบการณ์สูง เคยบินไปยัง นครซานฟรานซิสโกด้วยเครื่องบินรุ่นอื่นมาแล้วหลายรุ่น ที่รวมถึงโบอิ้ง 747 แต่เที่ยวบิน 214 ที่ประสบเหตุวันเสาร์ เป็นการบินด้วยโบอิ้ง 777 เที่ยวแรกของเขา โดยมีนักบินอีกคนที่มีชั่วโมงบินกับเครื่องบินรุ่นนี้มาแล้วคอยให้ ความช่วยเหลือ

สำหรับนายลีเริ่มทำงานกับเอเชียน่า แอร์ไลน์ ด้วยการเป็นนักบินฝึกหัดตั้งแต่ปี 1994 มีชั่วโมงบินทั้งหมด 9,793 ชั่วโมง แต่มีชั่วโมงบินกับโบอิ้ง 777 เพียง 43 ชั่วโมง ส่วนนักบินที่ 2 คือ นายลี จอง มิน มีชั่วโมงบินทั้งหมด 12,387 ชั่วโมง และมีชั่วโมงบินกับโบอิ้ง 777 มาแล้ว 3,220 ชั่วโมง

นางเดบอราห์ เฮอร์สแมน ประธาน คณะกรรมการสอบสวนความปลอดภัยทางการขนส่งแห่งชาติ (เอ็นทีเอสบี) ในฐานะหัวหน้าชุดสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุเที่ยวบิน โอแซท 214 ของสายการบินเอเชียน่า แอร์ไลน์ บรรทุกผู้โดยสาร 291 คน และลูกเรือ 16 คน แถลงว่า เจ้า หน้าที่กำลังสอบปากคำกัปตันและนักบิน ผู้ช่วยอีก 3 คน ว่าใช้ความเร็วต่ำเกินไปขณะทำการร่อนลงจอดจริงหรือไม่ หลังข้อมูลเพิ่มเติมจากกล่องดำระบุชัดว่า นักบินใช้ความเร็วต่ำกว่าความเร็วมาตรฐานสำหรับเครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งต้องอยู่ที่ 137 น็อต และได้มีการร้องขอให้นักบินยกเลิกการลงจอดเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ส่วนหางของเครื่องบินจะกระแทกพื้น