“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” ไฟแรง! วางนโยบายเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำและศึกษาให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน เพื่อแก้ปัญหาจราจรและรถติดให้สอดคล้องกับนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนึ่งในนโยบายจะมีการบังคับใช้กฎหมายร่วมกับตำรวจเรื่องการขนส่งรถบรรทุกในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเพื่อแก้ปัญหารถติดในเมืองหลวง โดยจะบังคับให้รถบรรทุกห้ามวิ่งขนส่งในช่วงเวลาทั้งกลางวันและจะอนุญาตให้วิ่งเฉพาะเวลา 00.00-04.00 น. เพียงเท่านั้น 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ​เปิดเผยว่า นโยบายเร่งด่วนที่จะบังคับให้รถบรรทุกห้ามวิ่งขนส่งในเขตเมืองหลวง ทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเวลากลางวัน และจะอนุญาตให้วิ่งเฉพาะเวลา 00.00-04.00 น. นั้น  ยืนยันว่าโมเดลนี้เป็นนโยบายที่ต่างประเทศบังคับใช้กันหมดแล้ว ดังนั้นประเทศไทยจึงควรลองนำแนวทางมาปรับใช้ในบ้านเรา

ด้าน นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นโยบายบังคับให้รถบรรทุกขนส่งในช่วงกลางคืน 00.00-04.00 น. กลุ่มผู้ประกอบการมองว่าเป็นนโยบายที่ทำได้ยาก อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาคของประเทศ

ดังนั้นเรื่องนี้กระทรวงคมนาคมต้องหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการ สภาหอการค้า และอาจรวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรม ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หากบังคับใช้มาตรการดังกล่าว เนื่องจากปัจจุบันรถบรรทุกสามารถวิ่งบรรทุกสินค้าได้ในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. และช่วงเวลา 21.00-05.00 น. ซึ่งถือว่าเหมาะสมเพียงพอแล้ว อีกทั้งยังใช้ช่วงเวลานี้มาโดยตลอด

“ถ้ากระทรวงคมนาคมต้องการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งดังกล่าว จะส่งผลไปยังภาคการผลิตและโรงงานขนาดใหญ่ที่ต้องปรับเปลี่ยนเวลาการผลิตให้สอดคล้องกับช่วงเวลาการขนส่งสินค้า ไปจนถึงกิจกรรมปลายน้ำอย่างการท่าเรือและโกดังสินค้า”

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนอยู่ระหว่างทำหนังสือขอเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือถึงประเด็นปัญหาดังกล่าว และอยากเสนอให้กระทรวงคมนาคมใช้มาตรการแบบในประเทศสิงคโปร์ในการลดจำนวนรถบรรทุกในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ผ่านการนับทะเบียนเลขคู่และเลขคี่ เช่น รถบรรทุกทะเบียนเลขคู่สามารถเข้าพื้นที่ตามกำหนดเวลาเดิมได้ในวันที่กำหนด และทะเบียนรถบรรทุกเลขคี่สามารถเข้าพื้นที่ได้ในวันที่แตกต่างกัน

ขณะที่ นายชุมพล สายเชื้อ นายกสมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย กล่าวว่า นโยบายดังกล่าว ไม่ได้มีความเสียหายอยู่แค่ผู้ขับขี่รถบรรทุกบนท้องถนน แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ เพราะถือว่าไทยพึ่งพาเม็ดเงินการส่งออกคิดเป็นสัดส่วน 60-70% ของตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศ (GDP) ไปจนถึงผลกระทบที่จะตกไปอยู่กับประชาชนหากผู้ประกอบการมีต้นทุนเพิ่ม ราคาสินค้าที่จะขายให้ประชาชนก็จะเพิ่มตามไปด้วย

ดังนั้น จึงเป็นความเสียหายในภาพรวมที่ประเมินค่าได้ยาก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากทั่วประเทศ เข้ามารองรับความต้องการของคนเมือง ซึ่งการห้ามรถบรรทุกวิ่งช่วงกลางวัน จะกระทบต่อการขนส่งอาหารเน่าเสียง่ายและผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข อันที่จริงผู้ประกอบการรถบรรทุกมีส่วนน้อยมากที่ต้องการวิ่งตอนกลางวัน แต่ต้องวิ่งขนส่งเพราะความจำเป็น

นอกจากนี้ เรื่องดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปยังโลจิสติกส์ปลายน้ำ อย่างท่าเรือและท่าอากาศยาน ซึ่งจะทำให้เกิดความแออัดอย่างมากในช่วงเวลากลางคืน กระทบต่อต้นทุนรายจ่ายในภาพรวมของหลายอุตสาหกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ เพราะต้องปรับเปลี่ยนการผลิตและเพิ่มชั่วโมงการทำงานของพนักงานในเวลากลางคืน ให้สอดรับกับมาตรการขนส่งดังกล่าว

“รถบรรทุกเป็นจำเลยสังคมตลอด ที่ผ่านมาให้ความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมเสมอ เช่น การหยุดวิ่งในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ ผู้ประกอบการล้วนเสียรายได้ วันนี้กลุ่มรถบรรทุกเปิดประเด็นปัญหารถติดพระราม 2 เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ขับขี่บนถนน แต่ผลร้ายที่ได้ตอบแทนคือรัฐบาลใช้นโยบายห้ามรถบรรทุกวิ่งเพื่อแก้รถติด แบบนี้มันไม่ยุติธรรม”