เมื่อกลางเดือน ส.ค. 2562 ที่ผ่านมา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดบรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อรับฟังปัญหาการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขัน Motor GP 2019
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบให้กรมทางหลวง พิจารณาความเหมาะสมการนำแบริเออร์ที่ผลิตจากยางพาราที่สามารถรองรับความเร็วรถ 120 กม. ต่อ ชม. ได้ มาใช้ทดแทนการก่อสร้างเกาะกลางถนน ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนบูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อให้ความร่วมมือในการก่อสร้างโครงการต่างๆ เพื่อให้แล้วเสร็จและเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
ปัจจุบันบริเวณชุมชน ต. สองชั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างขยายช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งพบว่าจุดที่เกิดอุบัติเหตุ 3 จุดที่พบบ่อยครั้ง ได้แก่ บริเวณต้นสำโรง ทางแยกประสาท - พลับพลาชัย และบริเวณหน้าโรงเรียนในชุมชน ซึ่งมีประชาชนสัญจรไปมาจำนวนมาก ชาวบ้านในชุมชนจึงขอให้พิจารณาการก่อสร้างสะพานลอยคนข้าม ปรับตำแหน่งจุดกลับรถใกล้โรงเรียน และการใช้เกาะกลางถนน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและความปลอดภัยแก่นักเรียน และประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน
“ชาวบ้านชุมชนสวายจีกได้ขอให้ช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน 2 เรื่อง คือ ขอให้ยกเลิกเกาะกลางถนน และขอให้พิจารณาทำทางลอด ซึ่งได้มอบกรมทางหลวง ให้พิจารณาการใช้แบริเออร์ที่ผลิตจากยางพาราที่สามารถรองรับความเร็วรถ 120 กม. ต่อ ชม. ได้ และมีความปลอดภัยสูง แทนการก่อสร้างเกาะกลางถนน ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของประชาชน และและความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้มอบให้กรมทางหลวงชนบทปรับแผนการก่อสร้างสะพานข้ามเป็นทางลอดแทนในปีงบประมาณ 2563”
ทั้งนี้ ได้ติดตามโครงการก่อสร้าง ของแขวงทางหลวงบุรีรัมย์ กรมทางหลวง 13 โครงการสำคัญ 25 สายทาง ระยะทางประมาณ 890 กิโลเมตร เพื่อรองรับปริมาณการจราจรในอีก 5 ปี และติดตามโครงการก่อสร้างทางหลวง 226 (บ้านสวายจีก - บ้านสองชั้น) ในการก่อสร้างจุดกลับรถ ทางเลี้ยว ทางแยก เกาะยก เกาะสี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนเมษายน 2564
ส่วนการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขัน Motor GP 2019 ณ จังหวัดบุรีรัมย์นั้น กระทรวงคมนาคม ได้เตรียมการรองรับการแข่งขัน และเตรียมแผนงานและประชาสัมพันธ์การเดินทางให้ทั่วถึง โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1.กรมทางหลวง ดำเนินการการก่อสร้างสายทาง 2445 และแยกกระสัง ซึ่งจะแล้วเสร็จก่อนการแข่งขัน Motor GP ส่วนเส้นทางสาย 218 บุรีรัมย์ - นางรอง ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมใช้งาน
2.กรมการขนส่งทางบก ดำเนินการอพนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนที่จะเข้าชมการแข่งขัน โดยจัดเตรียมรถ shuttle bus การปรับปรุงสถานีขนส่งบุรีรัมย์ (ใช้งบจังหวัด ประมาณ 9 ล้านบาท) การจัดรถโดยสาร 4 เส้นทาง ได้แก่ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ - สนามช้างอารีน่า,สถานีรถไฟบุรีรัมย์ - สนามช้างอารีน่า, สถานีขนส่งบุรีรัมย์ - สนามช้างเซอร์กิต และ อบจ.บุรีรัมย์ - สนามช้างเซอร์กิต
3.กรมท่าอากาศยาน ได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขันฯ โดยเตรียมความพร้อมรองรับ Extra flight ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจจับระเบิด การจัดพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสาร ตลอดจนการร่วมมือกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการซักซ้อมการเคลื่อนย้ายอากาศยาน การซักซ้อมการดับเพลิง ที่จอดรถ และการอำนวยความสะดวกของประชาชน
4.การรถไฟแห่งประเทศไทย ดำเนินการเพิ่มโดยพ่วงขบวนรถเพื่อให้เพียงพอกับผู้เข้าชมการแข่งขัน จัดพื้นที่รองรับที่จอดรถ เก้าอี้ไม้หมอน ห้องน้ำ รวมทั้งการจองบัตรโดยสารผ่าน Application และการจ่ายค่าโดยสารด้วยระบบ QR code เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
